เลือกตั้งสหรัฐฯ: ดีเบตจบ โซเชียลไม่จบ กองเชียร์แฮร์ริส-ทรัมป์ปะทะคารมเดือดในโลกออนไลน์

การโต้วาทีอย่างดุเดือดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน และคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต เมื่อคืนวันอังคาร (10 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ไม่เพียงสร้างความร้อนแรงบนเวทีเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปสู่สมรภูมิโซเชียลมีเดียอีกด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทันทีที่การโต้วาทีเริ่มต้นขึ้น กองเชียร์ฝ่ายเดโมแครตก็ไม่รอช้า หยิบยกช่วงเวลาที่แฮร์ริสเดินข้ามเวทีเพื่อจับมือทักทายทรัมป์มาสร้างกระแสบนโลกออนไลน์

“คามาลาบอกว่า นายต้องจับมือฉันสิ!” อดัม เจมส์ สมิท ผู้ใช้เอ็กซ์ (X) โพสต์ พร้อมกวาดยอดไลก์ไปกว่า 68,000 ไลก์

ที่ปรึกษาของแฮร์ริสเผยก่อนหน้านี้ว่า หนึ่งในกลยุทธ์ของรองประธานาธิบดีหญิงคือการยั่วยุให้ทรัมป์หลุดคำพูดที่อาจกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นไปตามแผน อย่างไรก็ตาม ทีมหาเสียงและกองเชียร์ออนไลน์ของทรัมป์ก็รีบออกมาประกาศชัยชนะทันทีที่การดีเบตจบลง โดยอ้างว่าอดีตปธน.เป็นฝ่ายเหนือกว่า

หลากหลายสีหน้าของแฮร์ริส ทั้งงุนงง ตกใจ และสงสัยขณะที่ทรัมป์กล่าวซ้ำคำโกหกเดิม ๆ ถูกนำไปทำเป็นมีมอย่างรวดเร็ว แต่ประเด็นที่จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คือคำกล่าวอ้างที่ผิด ๆ ของทรัมป์ เกี่ยวกับผู้อพยพชาวเฮติในสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ว่า เป็นพวกกินสุนัขและแมวเป็นอาหาร

“พวกเขากินสุนัข” (THEY’RE EATING THE DOGS.) กลายเป็นคำพูดติดเทรนด์บนเอ็กซ์อย่างรวดเร็ว มีคนโพสต์ถึงประโยคนี้กันเป็นพัน ๆ ขณะที่หลายคนก็แสดงความสับสนว่าทรัมป์พูดเรื่องนี้ขึ้นมาในศึกดีเบตชิงตำแหน่งปธน.ทำไม หลังจากที่เขาพูดว่า “พวกเขากินสุนัข คนที่อพยพเข้ามาน่ะ พวกเขากินแมว”

หลังการโต้วาทีจบลง แฮร์ริสก็คว้าชัยชนะครั้งสำคัญบนโลกออนไลน์ “ฉันได้ดูการโต้วาทีคืนนี้ เหมือนกับพวกคุณหลาย ๆ คน” เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องชื่อดัง กล่าวกับผู้ติดตามกว่า 280 ล้านคนบนอินสตาแกรม (Instagram) “ฉันจะโหวตให้ @kamalaharris เพราะเธอต่อสู้เพื่อสิทธิและอุดมการณ์ที่ฉันเชื่อว่าต้องการนักสู้มาเป็นผู้นำ”

โพสต์ดังกล่าวกวาดยอดไลก์บนอินสตาแกรมไปกว่า 4.3 ล้านครั้ง ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงหลังโพสต์

นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งปีนี้มากกว่าครั้งก่อน ๆ ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างว่าจ้างคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพื่อเผยแพร่นโยบายและโปรโมตผู้สมัครของตน

“โซเชียลมีเดียสะท้อนความคิดคน และคนก็ถูกหล่อหลอมความคิดจากโซเชียลด้วย” รองศาสตราจารย์แชนนอน แม็คเกรเกอร์ จากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนฮัสส์แมน มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาที่แชเปิลฮิลล์ กล่าว

แม้ทรัมป์จะมีผู้ติดตามบนเอ็กซ์มากกว่าแฮร์ริส โดยทีมหาเสียงของเขามีผู้ติดตามถึง 2.4 ล้านคน ทิ้งห่างทีมของแฮร์ริสที่มีแค่ 1.3 ล้านคน แต่หากเป็นติ๊กต๊อก (TikTok) ทีมของรองปธน.หญิงกลับได้รับความนิยมมากกว่า ด้วยยอดไลก์ทะลุ 100 ล้าน ขณะที่คู่แข่งตามหลังอยู่ที่ 44 ล้านเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ทีมหาเสียงและผู้สนับสนุนทรัมป์ต่างยกย่องคำตอบของเขาเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจของแฮร์ริส โดยทรัมป์มองว่าแฮร์ริสลอกเลียนแบบนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

“วิ่งสิ สปอต วิ่งสิ” (Run, Spot, run.) ทรัมป์เหน็บแนมแฮร์ริส โดยอ้างถึงชุดหนังสือหัดอ่านสำหรับเด็กยอดนิยมในสมัยก่อน ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ฮิตบนเอ็กซ์ทันที

นักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า แฮร์ริสทำให้ทรัมป์ตกเป็นฝ่ายตั้งรับในการโต้วาที ด้วยการเปิดฉากรุกทั้งเรื่องกฎหมายทำแท้ง ความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง และคดีความต่าง ๆ แต่เมื่อการดีเบตจบลง ทีมหาเสียงและตัวทรัมป์เองก็รีบออกมาประกาศชัยชนะบนโซเชียลมีเดีย

“ใคร ๆ ก็พูดกันว่าเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในคืนนี้” ทรัมป์โพสต์บนเฟซบุ๊กหลังจบการโต้วาที พร้อมกวาดยอดไลก์ไปเกือบ 30,000 ไลก์อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เขายังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยกล่าวหาว่าผู้ดำเนินรายการ “ไม่ยุติธรรม” กับเขา

ทีมหาเสียงของแฮร์ริสเองก็ประกาศชัยชนะในการโต้วาทีเช่นกัน

ประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายงัดขึ้นมาโจมตีกันอย่างรวดเร็วคือข้อกล่าวหาของทรัมป์ที่ว่า แฮร์ริส “ไม่ยอมพบกับ (เบนจามิน) เนทันยาฮู ตอนที่เขามาเยือนสภาคองเกรส” ซึ่งทรัมป์หมายถึงการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยทรัมป์กล่าวหาว่าแฮร์ริส “อยากไปงานปาร์ตีของชมรมนักศึกษาหญิงมากกว่า”

เหล่าผู้สนับสนุนแฮร์ริสบนเอ็กซ์ต่างออกมาปกป้องรองปธน.หญิง ซึ่งเป็นสมาชิกของ “อัลฟา แคปปา อัลฟา” (Alpha Kappa Alpha) ชมรมนักศึกษาหญิงชาวแอฟริกันอเมริกันที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยพร้อมใจกันโพสต์ข้อความสนับสนุน อาทิ “จากงานปาร์ตีชมรมฯ สู่คูหาเลือกตั้ง”

ขณะเดียวกัน “เมก อเมริกา เกรต อเกน อิงค์” (Make America Great Again Inc) ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์ทางการเมือง (super PAC) ที่ระดมทุนสนับสนุนทรัมป์ ก็ได้โพสต์วิดีโอฉลองชัยชนะหลังการโต้วาทีเป็นจำนวนหลายคลิปบนติ๊กต๊อกให้ผู้ติดตาม 3.6 ล้านคนได้ชมกัน รวมถึงคลิปจากการสนทนากลุ่ม (focus group) ของช่องซีเอ็นเอ็น (CNN) ซึ่งมีโหวตเตอร์ชาวเพนซิลเวเนียคนหนึ่งพูดหลังจบดีเบตว่า “เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ชีวิตฉันดีกว่านี้สมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top