นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บลจ.อีสท์สปริง ยังคงนำเสนอทางเลือกในการลงทุนผ่านกองทุนกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในประเทศประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ และกองทุนรวมผสม โดยเปิดจองพร้อมกัน 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 1Y8 (ES-GOVCP1Y8) อายุประมาณ 1 ปี เงินลงทุนโครงการ 5,000 ล้านบาท และ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Performance-Linked Complex Return 2Y3MB (ES-LINK2Y3MB) อายุ 2 ปี 3 เดือน เงินลงทุนโครงการ 4,000 ล้านบาท โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกครั้งเดียวพร้อมกันทั้ง 2 กองทุน ระหว่างวันที่ 10-16 กันยายน 2567 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 1Y8 (ES-GOVCP1Y8) เป็นกองทุนที่ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันครบอายุโครงการ โดยกองทุนมีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น และจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยจะลงทุนเพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold)
โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.25% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.15%ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 2.10% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก (แหล่งที่มาของข้อมูล อัตราผลตอบแทนที่เสนอขายโดยผู้ออกตราสาร ณ วันที่ 4 กันยายน 2567) ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกรายไปยังกองทุนเปิดอีสท์สปริง ธนรัฐ (ES-TM) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
ส่วนกองทุนเปิดอีสท์สปริง Performance-Linked Complex Return 2Y3MB (ES-LINK2Y3MB) เป็นกองทุนรวมผสมประเภทที่มีการจ่ายผลตอบแทนซับซ้อน โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% โดยมีกลยุทธ์การลงทุนครั้งเดียว (buy-and-hold) แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากและ/หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 95-98% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งประมาณการตราสารและสัดส่วนที่คาดว่าจะลงทุนในส่วนของตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากและ/หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ณ วันที่ 3 กันยายน 2567 ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลไทย ประมาณ 61.7% และพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ประมาณ 34.9% โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ 2 ปี 3 เดือน ซึ่งจะมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging)
ส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ประเภทสัญญาออปชั่น (Option) หรือสัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี Solactive Global Income Fund 5% VT USD ER ตามเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนเพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี Solactive Global Income Fund 5% VT USD ER โดยจะลงทุนประมาณ 2.00-5.00% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือสัญญาวอร์แรนท์
ดัชนี Solactive Global Income Fund 5% VT USD ER เป็นดัชนีที่สะท้อนถึงส่วนต่างของผลการดำเนินงานของ 1.) กองทุน PIMCO GIS Income ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสรายได้ในระดับสูง ด้วยการบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ และมีวัตถุประสงค์รองในการสร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว กองทุนมีหลักการสำคัญในการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก อย่างน้อย 2 ใน 3 ของ มูลค่าทรัพย์สินของกองทุน และ 2.อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมระยะข้ามคืนโดยมีพันธบัตรรัฐบาล (Treasury) เป็นหลักประกัน (Secured Overnight Financing Rate – SOFR) โดยมีการจัดการความเสี่ยงที่ปรับค่าความผันผวนให้อยู่ใกล้เคียงกับ 5%
บลจ.อีสท์สปริง มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงภายหลังการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่ง อย่างเช่น สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน เม็กซิโก บราซิล รวมถึงยุโรปได้ตัดสินใจเริ่มต้นการดำเนินมาตรการแบบผ่อนคลายผ่านการปรับลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐน่าจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงถึง 5.25%-5.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 23 ปี อาจส่งผลบวกต่ออดัชนี Solactive Global Income Fund 5% VT USD ER ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าได้ (ที่มาของข้อมูล Bloomberg ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2567)
“จุดเด่นของกองทุน ES-LINK2Y3MB คือมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมๆ กับอายุลงทุนที่สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยไม่มีกรอบ Knock-Out Barrier (KO) นอกจากนี้ดัชนีอ้างอิงมีการปรับสัดส่วนการลงทุนอัตโนมัติตามสภาวะผันผวนของกองทุน PIMCO GIS Income ในแต่ละช่วงเวลาเพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนควบคู่กับบริหารความเสี่ยงที่ดี ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากโดยทั่วไป และมีระยะเวลาการถือครองประมาณ 2 ปี 3 เดือน โดยที่ไม่ต้องการสูญเสียเงินลงทุนในกรณีที่ดัชนีอ้างอิงติดลบ”
นางสาวดารบุษป์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 67)
Tags: กองทุนตราสารหนี้, กองทุนผสม, กองทุนรวม, กองทุนเปิดใหม่, ดารบุษป์ ปภาพจน์, บลจ.อีสท์สปริง