เงินบาทเปิด 33.70 แนวโน้มอ่อนค่า คาดกรอบวันนี้ 33.65-33.85

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.70 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์

ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนสูง แกว่งตัวในกรอบ 33.35-33.78 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้น เร็ว ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้านของราคาทองคำ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังคงมุมมองเดิมว่ามีโอกาสทยอยอ่อนค่าลง แต่ก็อาจมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง หากผู้เล่นใน ตลาดยังคงเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งลดดอกเบี้ย ทั้งนี้ ควรจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน ที่จะกระทบทิศ ทางค่าเงินหยวน (CNY) พร้อมติดตามทิศทาง Fund Flow ต่างชาติ ซึ่งอาจเริ่มทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทย รวมถึงจับตาการเคลื่อน ไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาทองคำ

สัปดาห์นี้ จับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) พร้อมรอลุ้นอัตราเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ และรายงานข้อมูล เศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดจะรอติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนส. ค. เพื่อประเมินแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจ รวมทั้งการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

ทั้งนี้ คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.85 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ ที่ระดับ 142.72/74 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1088 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ ที่ระดับ 1.1112/1114 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 33.543 บาท/ดอลลาร์

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (6 ก.ย.) หลังข้อมูลบ่งชี้ว่า การจ้างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนส.ค. แต่อัตราการว่างงานลดลง ซึ่งน่าจะสนับสนุนให้ธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (6 ก.ย.) จากระดับสูงสุดเกือบเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในช่วงเช้า หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่ไม่ชัดเจนนั้น ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาก เพียงใดในเดือนนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 2,524.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวลง 1.09% ในรอบสัปดาห์นี้

– เจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขจ้างงานนอก ภาคเกษตรที่มีการเปิดเผยล่าสุด ได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวล และเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นร่วงลงก็ตาม

– สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปรับลดการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2567 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.9% (YoY) ลดลงจากการประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัว 3.1%

– สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% โดยตัวเลขเงินเฟ้อที่ซบเซาของ จีน บ่งชี้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอ่อนแอนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

– China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลง 0.0064 หยวน แตะที่ 7.0989 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 67)

Tags: , ,
Back to Top