กระทรวงพาณิชย์ จัดประชุมรับฟังความเห็นแผนปฏิบัติการ เรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568-2570 ก่อนนำเสนอ ครม. เพื่อใช้เป็นเข็มทิศของไทยในการกำหนดทิศทางการค้าของประเทศ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนปฏิบัติการ เรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568-2570
โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมรับฟังความเห็นทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน เกี่ยวกับภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งถือเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจพื้นฐาน และมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ GDP ภาคการเกษตรจะมีสัดส่วนเพียง 8.6% ของ GDP ประเทศ แต่พื้นที่ทำการเกษตรในประเทศกลับมีสัดส่วนสูงถึง 46.06% ของพื้นที่ทั้งประเทศ มีประชากรภาคเกษตรถึง 44.81% ของประชากรทั้งหมด และมีแรงงานภาคเกษตรถึง 48.75% ของแรงงานทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าภาคเกษตรมีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก
ทั้งนี้ การจัดทำร่างแผนปฏิบัติการ เรื่อง การค้าสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทยอย่างเป็นระบบ เป็นแนวทางให้ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานร่วมกัน สร้างความเข้มแข็งให้แก่สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรของไทย
ผู้อำนวยการ สนค. คาดหวังว่า ร่างแผนปฏิบัติการฉบับนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย ที่จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน กฎระเบียบการค้า และแนวโน้มใหม่ ๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล ที่จะส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของไทย
ในที่ประชุม ได้ร่วมกันหารือกันอย่างกว้างขวางใน 5 ประเด็น การพัฒนาสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมการเกษตร ได้แก่
1. การส่งเสริมการจัดการปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน โดยการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต ส่งเสริมธุรกิจบริการด้านการเกษตรตลอดห่วงโซ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ผลักดันการจัดตั้งศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าเกษตรอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการลงทุนภาคเกษตรในระดับท้องถิ่น
2. การส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาทักษะผู้ประกอบการสินค้าเกษตร โดยการพัฒนาความรู้และทักษะของเกษตรกร และผู้ประกอบธุรกิจการเกษตร ส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อสร้างความเข้มแข็งและอำนาจในการต่อรอง และส่งเสริมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อมูลของภาครัฐ
3. การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการค้าสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โดยส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรแปรรูปและเกษตรมูลค่าสูง ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าเกษตรไทย ส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ให้การพัฒนาประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร ให้มีสินค้าและคู่ค้าที่หลากหลาย
4. การส่งเสริมระบบตลาดสินค้าเกษตร เพื่อรักษาเสถียรภาพการค้าสินค้าเกษตร ส่งเสริมกลไกตลาดที่เป็นธรรม พัฒนาและเพิ่มช่องทางการตลาด และ ยกระดับตลาดสินค้าเกษตรที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
5. การอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยการสนับสนุนการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตร แก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าสินค้าเกษตร และยกระดับการให้บริการประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้าเกษตร
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า หลังจากรับฟังความคิดเห็นจนครบถ้วนแล้ว สนค. จะนำแผนดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนต่อไป เพื่อให้ไทยมีแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ เป็นเข็มทิศในการกำหนดทิศทางการการค้าของประเทศ รวมทั้งมีแนวทางให้ภาคส่วนต่าง ๆ ดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า และเสริมแกร่งเศรษฐกิจไทยให้เติบอย่างเข้มแข็ง และยั่งยืน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 67)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์, สินค้าเกษตร, อุตสาหกรรมการเกษตร, เกษตรกร