ไห่ปิน จู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายกิจการจีนของธนาคารเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนจะยังคงอยู่ในภาวะที่อ่อนแอต่อไปอีก เนื่องจากมาตรการกระตุ้นและการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ออกมาหลายระลอกแล้วนั้น ยังไม่มากพอที่จะพยุงภาคส่วนนี้ให้ฟื้นตัวขึ้นได้
เขาให้สัมภาษณ์ในรายการ Squawk Box Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) วานนี้ (2 ก.ย.) ว่า “การล่มสลายของตลาดที่อยู่อาศัยในจีนยังไม่จบสิ้น” พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาบ้านในจีนจะอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพต่อไปจนถึงปี 2568
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยไชน่าอินเด็กซ์ (China Index Academy) ระบุว่า ราคาขายเฉลี่ยของบ้านใหม่ใน 100 เมืองของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 0.11% จากเดือนก.ค. ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมิ.ย. ที่ปรับตัวขึ้น 0.13% ส่วนราคาบ้านมือสองในเดือนก.ค.ลดลง 0.71% จากเดือนก่อนหน้า
ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองต่างก็มีราคาเฉลี่ยลดลง 1.76% และ 6.89% จากปีที่แล้วตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของจีนยังคงเผชิญวิกฤตการณ์ในระดับรุนแรง
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาแผนลดต้นทุนการกู้ยืมให้กับเจ้าของบ้าน โดยอนุญาตให้รีไฟแนนซ์สินเชื่อจำนองมูลค่าสูงถึง 5.4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่นักวิเคราะห์ยังไม่มั่นใจว่านโยบายดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพมากพอในการกระตุ้นความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อบ้านและการอุปโภคบริโภคโดยรวมได้หรือไม่
วินนี วู หัวหน้านักกลยุทธ์หุ้นจีนของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซิเคียวริตีส์ (BofA Securities) กล่าวว่า “บางคนคิดว่าการปรับลดต้นทุนการกู้ยืมจะช่วยกระตุ้นการอุปโภคบริโภค แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือคนละเรื่องเลย เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนองจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต้องลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อปกป้องกำไรของธนาคารและเพื่อรักษาเสถียรภาพในระบบการเงิน แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงนั้น จะส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเงินออมของภาคครัวเรือนปรับตัวลดลงในท้ายที่สุด
สำหรับในเรื่องนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า “นโยบายรีไฟแนนซ์สินเชื่อจำนองแทบจะไม่ได้ช่วยกระตุ้นความต้องการบ้านใหม่ และต่อให้นโยบายดังกล่าวมีการบังคับใช้เป็นรูปธรรม ก็ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัย นโยบายนี้ไม่ได้ช่วยหนุนความต้องการบ้านใหม่ แต่เป็นประโยชน์กับเจ้าของบ้านที่มีบ้านอยู่แล้วเท่านั้น”
ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า “การปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่นโยบายที่ดีที่สุด การบีบกำไรของธนาคารพาณิชย์ให้ลดน้อยลงไม่ใช่นโยบายที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างวงจรสะท้อนกลับเชิงบวก แทนที่จะเป็นวงจรขาลงนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ย. 67)
Tags: ตลาดที่อยู่อาศัย, เจพีมอร์แกน