นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น(BCP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายภายในปี 73 รายได้จากการขายและการให้บริการจะเติบโตแตะ 1 ล้านล้านบาท และ EBITDA เติบโตแตะ 100,000 ล้านบาท เป็นไปตามการขยายตัวของทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่
ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน (โรงกลั่นพระโขนงและโรงกลั่นศรีราชา) คาดจะมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นรวมเพิ่มเป็น 280,000 บาร์เรลต่อวันในปี 68 จากกำลังการกลั่นติดตั้งรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มค่าการกลั่น (GRM) นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด รวมถึงการขยายการผลิตผลิตภัณฑ์เฉพาะทางที่มีมูลค่าสูง เช่น Unconverted Oil และขี้ผึ้ง
นอกจากนี้ ในปี 68 จะเป็นปีแห่งการบุกเบิกความเป็นผู้นำในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ด้วยกำลังการผลิต 7,000 บาร์เรลต่อวัน BCP มีความพร้อมจัดหาวัตถุดิบจากเครือข่ายพันธมิตรและการรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วผ่านโครงการทอดไม่ทิ้งทั่วประเทศ
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า SAF เป็นผลิตภัณฑ์ที่มี margin สูงกว่าผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยานแบบดั้งเดิม และมีแนวโน้มความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต จะทำให้กลุ่ม BCP ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดโรงกลั่นเฉพาะทางที่ยึดมั่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยวางเป้ารายได้ในปี 68 ไว้ที่ 18,000 ล้านบาท
ด้านธุรกิจการตลาด บริษัทมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันบางจากเพิ่มเป็น 2,400 แห่ง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 33% จากครึ่งปีแรกของปี 67 อยู่ที่ 28.8% โดยจะมุ่งเน้นที่ตลาดที่มีความต้องการสูง ด้านตลาดพาณิชยกรรม จะมุ่งขยายตลาดในภูมิภาค (กัมพูชา ลาว สหภาพเมียนมา และเวียดนาม) นอกจากนี้ยังมีแผนขยายร้าน Inthanin Coffee เพิ่มเป็น 2,400 แห่ง
ส่วนธุรกิจพลังงานสีเขียว โดย บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ตั้งเป้าได้รับการคัดเลือกเป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SET50 และเป็นหนึ่งในหุ้นยั่งยืนที่ถูกคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนี DJSI ด้วยกลยุทธ์เน้นการขยายการลงทุนในพลังงานสีเขียวในประเทศที่มีธุรกิจอยู่แล้วและการทำ capital recycling เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น พร้อมกับการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการเงินและผลตอบแทนการลงทุนที่เหมาะสม
นอกจากนี้ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพแบบครบวงจร กำลังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สินทรัพย์และขยายธุรกิจหลักไปสู่ตลาดที่มีมูลค่าสูง BBGI ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิต CDMO (Contract Development and Manufacturing Organization) รายแรกในอาเซียนในปี 68 โดยมีแผนที่จะผลิตมากกว่า 1 ล้านลิตรต่อปีภายในปี 71
ขณะที่ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) กลุ่ม BCP สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในธุรกิจ ด้วยการลงทุนใน OKEA ASA ในประเทศนอร์เวย์ตั้งแต่ปี 61 โดยมีเป้าหมายขยายกำลังการผลิต 50,000 บาร์เรลต่อวันภายในปี 73 ตลอดจนมีแผนขยายธุรกิจ E&P ไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของโลก อาทิ เอเชียแปซิฟิก เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ E&P ของกลุ่มบริษัทบางจากอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายรวมที่ 100,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในปี 73
“EBITDA ที่ 100,000 ล้านบาท ในปี 73 จะมีสัดส่วนหลักมาจาก ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ที่ 53%, ธุรกิจโรงกลั่นฯ ที่ 35%, ธุรกิจพลังงานสะอาด 10% และธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ & ธุรกิจใหม่ 6% จากปี 67 สัดส่วนธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติจะอยู่ที่ 53%, ธุรกิจโรงกลั่นฯ 37%, ธุรกิจพลังงานสะอาด 8% ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ & ธุรกิจใหม่ 2%” นายชัยวัฒน์ กล่าว
บริษัทวางงบลงทุนรวม 6 ปี (ปี 68-73) ไว้ที่ 120,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วน 35% เพื่อรองรับในธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ หรือการลงทุนในธุรกิจ E&P โดยมองโอกาสขยายสู่ธุรกิจต้นน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A), อีก 30% จะใช้ในธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน, ธุรกิจพลังงานสีเขียวราว 20% และธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และธุรกิจใหม่ ราว 10%
ขณะที่ในปี 68 คาดใช้งบลงทุนราว 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน 4,500 ล้านบาท, ธุรกิจการตลาด 2,900 ล้านบาท, ธุรกิจพลังงานสีเขียว 20,000 ล้านบาท, ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ 1,000 ล้านบาท, และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ 20,000 ล้านบาท, ธุรกิจใหม่อีก 1,600 ล้านบาท
“งบลงทุน 120,000 ล้านบาท ในส่วนนี้จะแบ่งเป็น M&A ราว 55,000 ล้านบาท ลงในธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ 60% และพลังงานสีเขียว 40%”
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับปีนี้ บริษัทปรับเป้ารายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมคาดทำได้ราว 500,000 ล้านบาท หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้จากการขายฯ แล้ว 293,438 ล้านบาท และแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นฯ คาดมีอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ 266,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเติบโต 5% จากปีก่อน, ธุรกิจการตลาด ขยายสถานีบริการต่อเนื่อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,214 แห่ง และร้านกาแฟอินทนิล เพิ่มราว 1,000 แห่งในปีนี้, ธุรกิจไฟฟ้าสีเขียว (BCPG) คาดมีกำลังการผลิตแตะ 7,960 เมกะวัตต์ เติบโต 112% จากปีก่อน 3,744 เมกะวัตต์, ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (BBGI) ตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 67)
Tags: BCP, ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช, บางจาก คอร์ปอเรชั่น, หุ้นไทย