ดาวโจนส์ปิดบวก 243.63 จุด ขานรับ GDP แข็งแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (29 ส.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 2/2567 แต่รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ได้ฉุดดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,335.05 จุด เพิ่มขึ้น 243.63 จุด หรือ +0.59%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,591.96 จุด ลดลง 0.22 จุด หรือ -0.004% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,516.43 จุด ลดลง 39.60 จุด หรือ -0.23%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ประจำไตรมาส 2/2567 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 3.0% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.8% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังได้ปรับเพิ่มการประเมินการขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาส 2 ขึ้นสู่ระดับ 2.9% จากระดับ 2.3% และปรับลดการประเมินการขยายตัวของดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ลงสู่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.6%

เจฟฟรีย์ โรช หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ประกอบกับการที่สหรัฐฯ ปรับลดการประเมินตัวเลขเงินเฟ้อและปรับเพิ่มการประเมินตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น ช่วยให้ตลาดมีความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ โดยถูกกดดันจากการนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยแม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2568 แต่ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 3 ออกมาน่าผิดหวัง นอกจากนี้ อินวิเดียยังขาดความชัดเจนเกี่ยวกับการผลิตและการส่งมอบชิปแบล็คเวลล์ (Blackwell) ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่ของบริษัท

ทั้งนี้ หุ้นอินวิเดียปิดตลาดร่วงลง 6.38% ส่วนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ปรับตัวผันผวน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) บวก 0.6% หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) ปรับตัวลง 0.7% ขณะที่หุ้นบรอดคอมม์ (Broadcom) และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) ต่างก็ปรับตัวลงเกือบ 1%

หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) พุ่งขึ้น 1.5% หลังจากซิตี้กรุ๊ปยกให้แอปเปิ้ลเป็นหุ้นบริษัทธุรกิจ AI ที่น่าซื้อมากที่สุด โดยรายงานล่าสุดระบุว่า แอปเปิ้ลและอินวิเดียกำลังเจรจาเพื่อลงทุนในบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT โดยการลงทุนดังกล่าวจะช่วยให้โอเพนเอไอมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นคราวด์สไตรค์ (Crowdstrike) ซึ่งเป็นบริษัทดูแลความปลอดภัยด้านไซเบอร์ พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 2

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 232,000 ราย

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่าดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 5.5% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 70.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้น 0.4%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top