นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า ที่ประชุมวันนี้ไม่ได้หารือกรณีพรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรค พปชร.ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ได้แสดงความเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน หากไม่ทำตามคำมั่นที่เคยให้ไว้กับพรรค พปชร.จะทำให้เกิดข้อครหา
โดยพรรค พปชร. จะจับตาการเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในวันพรุ่งนี้ พร้อมแสดงความเป็นห่วงสถานะรัฐบาลด้วยที่หากเริ่มต้นแบบนี้จะไปได้นานสักเท่าไหร่ ตรงนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากกว่า
นายไพบูลย์ ยังได้ฝากถึงพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องของพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย แต่เกี่ยวโดยตรงกับนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของการที่นายกรัฐมนตรีให้สัญญาประชาคมหรือข้อตกลงร่วมกันว่า จะให้พรรคพลังประชารัฐลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี และให้คำมั่นไว้ว่า จะให้พรรคพลังประชารัฐได้มีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีด้วยตามสัดส่วนเดิม และตำแหน่งเดิม ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้มีการออกเสียงสนับสนุน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีทั้ง 39 เสียง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ได้ตอบสนองตามคำมั่นที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพราะการให้คำมั่นมาแล้วทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้ว แล้วนายกรัฐมนตรีไม่ปฏิบัติตามตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไปจะว่าได้ว่า นายกฯ อาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่
“ผมว่า ความเป็นห่วง น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ”นายไพบูลย์ กล่าว
ส่วนจะมีการฟ้องนายกรัฐมนตรีในข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมหรือไม่นั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคผู้ใหญ่ไม่ทำอะไรอย่างนั้น เราเพียงแค่จะบอกว่า เรื่องราวเป็นเรื่องของคำมั่น ที่ไม่ต้องมีสัญญาหรือลงลายมือชื่อ เป็นการแสดงเจตนาเท่านั้น
“ผมต้องถามกลับนายกรัฐมนตรี ถ้ามีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตามคำมั่นก็จะเป็นข้อครหา สังคมอาจจะติเตือน แต่พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องเปลี่ยนอะไร หากทำไปแล้วก็ทำให้จบ เพราะพรรคพลังประชารัฐมั่นคง และพร้อมที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ด้วยการดำเนินการของสส.ของพรรค อย่างมั่นคงสถาพรตลอดไป”นายไพบูลย์กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติกำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 กันยายน 2567 เวลา 10.30-13.00 น. โดยจะมีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม เพราะลาออกไปหลายคน จึงต้องเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ส่วนจะมีการขับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรคหรือไม่ นายไพบูลย์ ยืนยันว่า ไม่มีใครจะไปขับครอบครัวเรา เรามีความสุขที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนก็ได้มีการพูดคุยกันกับร.อ.ธรรมนัสอยู่แล้ว เป็นเรื่องของครอบครัวของพรรคพลังประชารัฐ
พร้อมปฎิเสธให้ความเห็นกรณีมีกระแสข่าวว่า คนบ้านป่ามีคลิปวิดีโอของคนบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันเรียกรัฐมนตรีหารือ หลังนายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกฯ นายไพบูลย์ ระบุเพียงว่า “ไม่ทราบ ถึงทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไม ตอนนี้ก็ถือว่าไม่ทราบ”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 67)
Tags: การเมือง, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคร่วมรัฐบาล, ไพบูลย์ นิติตะวัน