เงินบาทเปิด 33.99 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาตัวเลขส่งออกไทย-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากปิดวันก่อนที่ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ใกล้ระดับ 34.00 บาท/ดอลลาร์ มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และจังหวะปรับลดลงของราคาทองคำ

ทั้งนี้ เงินบาทมีแนวโน้มผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง เนื่องจากเป็นช่วงปลายเดือน ทำให้เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อดอลลาร์ของฝั่งผู้นำเข้า นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินเริ่มกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ซึ่งอาจเห็นแรงขายหุ้นไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติออกมาในช่วงนี้ได้บ้าง

“แม้บรรยากาศในตลาดการเงินช่วงนี้ อาจถูกกดดันจากความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้กดดันเงินบาทให้อ่อนค่าไปได้มากนัก ตราบใดที่ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้”

นายพูน ระบุ

สำหรับวันนี้ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ข้อมูลตลาดบ้าน รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference Board ส่วนในฝั่งไทย ตลาดจะรอรายงานยอดการส่งออกและนำเข้า เดือนกรกฎาคม ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า ยอดการส่งออกของไทยอาจโตได้ราว +5% (y/y) รวมทั้งจะรอติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ว่าจะมีความเสี่ยงที่จะลุกลามและบานปลายเป็นสงครามในภูมิภาคได้หรือไม่

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 33.90-34.15 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.72 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 143.97/98 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1166 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1173/1175 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.983 บาท/ดอลลาร์
  • กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนก.ค.67 ซึ่งในส่วนของมูลค่าการส่งออกนั้น ตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ 5% (Y/Y) จากเดือนมิ.ย. ที่หดตัวเล็กน้อย 0.3% โดยทั้งปี 67 ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 1-2%
  • บีโอไอไฟเขียว “เวสเทิร์น ดิจิตอล” ลงทุนเพิ่มกว่า 23,000 ล้านบาท ขยายฐานผลิตฮาร์ดดิสก์ครั้งใหญ่ รองรับคลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์
  • บจ.อู้ฟู่ ครึ่งปีแรก 2567 กำไรสุทธิ 519,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% อานิสงส์การท่องเที่ยวสร้างมูลค่าเพิ่มไปสู่ธุรกิจภาคบริการ อุปโภคบริโภค ขณะที่กลุ่มธุรกิจน้ำมันได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น
  • “คลัง” เดินหน้าแฮร์คัทหนี้ ช่วยประชาชน เตรียมเรียกธนาคารพาณิชย์ หารือ เน้นลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย สศช.แนะแฮร์คัทเฉพาะกลุ่ม ห่วงปัญหา Moral Hazard “แบงก์ชาติ” ชี้ เร็วเกินไปที่จะสรุปประเด็นลดส่งเงินเข้า FIDF ด้านสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไตรมาส 1 พบหนี้เสียลดลงหลังธนาคารพาณิชย์เข้มปล่อยสินเชื่อ
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (26 ส.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (26 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., เยอรมนีเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 และสหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด และดัชนีการผลิตเดือนส.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top