นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Vision for Thailand กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาและมีโอกาสจะตกต่ำลงอีก แม้ว่าอาจจะไม่ได้ลงไปลึก แต่ก็จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต และ แก้ไขปัญหาในหลายด้านที่ยังมีอยู่
“ผมสังเกตดู คนไทยไม่ยิ้มเหมือนเดิม หนี้สินเยอะ โอกาสทางเศรษฐกิจน้อยไป ไม่ค่อยยิ้มให้กัน ระหว่างอยู่รพ.ตำรวจ วันไหนไม่ป่วยหนัก ดูข่าว ก็เห็นคนไทยพึ่งสายมูเตลูเยอะไปหน่อย สังคมไทยลูกติดยา แม่ติดหวย ดีไม่ดี พ่อติดเหล้าด้วย ผมนั่งรถผ่าน กทม. ผ่านหัวเมืองใหญ่ บ้านเมืองไม่ค่อยสะอาด การก่อสร้าง สถาปัตยกรรมน้อยไปหน่อย ไม่มีเซ้นท์ของความบ้านเมืองสะอาดเรียบร้อย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ต่างคนต่างอยู่ มุ่งหาความสำเร็จองค์กรตัวเองเป็นหลัก แต่ความเป็นชาติคิดเผื่อส่วนรวม มีส่วนช่วยอย่างไร อยากเห็นเจ้าภาพในการดูแล
นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเรื่องแรก คือ คนไทยและประเทศไทยติดกับดักหนี้ ในแงของหนี้สินภาครัฐแก้ไม่ยากหากทำให้จีดีพีเติบโตได้ ขยายฐานภาษี สัดส่วนรายได้ต่อจีดีพีดีขึ้น แต่เรื่องหนี้ครัวเรือนตอนนี้สูงไปกว่า 90% แล้ว หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้บ้านและหนี้รถยนต์ จะเป็นไปได้หรือไม่หากเจรจากับธนาคารพาณิชย์ให้ข่วยปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน ขายหนี้ให่รัฐบาลในราคาที่พอมีกำไรบ้าง แล้วภาครัฐไปเก็บหนี้จากประชาชนช่วยลดหนี้ (แฮร์คัท) ให้ได้หรือไม่ ฝากการบ้านให้กับรมว.คลัง
“การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและธุรกิจให้เดินต่อให้ได้ คงหนีไม่พ้น รมว.คลัง ต้องไปคุยกับสมาคมธนาคารว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เชื่อว่าแนวทางมี เคยคุยไว้เยอะ รมว.คลังเคยเล่าให้ฟัง”นายทักษิณ กลาว
นอกจากนั้น กระทรวงการคลังจะต้องประสานนโยบายเศรษฐกิจกับแบงก์ชาติ เพื่อให้นโยบายการเงินการคลังไปในทางเดียวกัน เคารพความเป็นอิสระแบงค์ชาติ แต่จะต้องไปทางเดียวกัน
สำหรับโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นการยิงนก 3 ตัวด้วยกระสุนนัดเดียว สิ่งแรกคือเราจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจที่โตช้ามานาน เพราะไม่มีเงินในระบบเพียงพอ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ตข้างหลังบ้านมีระบบบล็อกเชนเพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีความแม่นยำ เรื่องที่ 2 อยากให้คนไทยรากหญ้าเรียนรู้เทคโนโลยี และเรื่องที่ 3 เราจะได้ดิจิทัลไอดีได้ซุปเปอร์แอพใช้กับทุกบริการภาครัฐ ในอนาคตรัฐบาลก็สามารถออกพันธบัตรผ่านดิจิทัลวอลเล็ตได้
แต่เมื่อมีการค้านและมีข้อจำกัดในการใช้งบประมาณปี 67 ให้ทันภายในเดือน ก.ย. 67 ทางคณะกรรมการมที่รับผิดชอบเล่าให้ฟังว่าจะใช้เงินงบประมาณก้อนแรก 1.45 แสนล้านบาทแจกเงินให้กับกลุ่มกลุ่มเปาะปรางและคนพิการ 14.5 ล้านคนคนละ 10000 ทันทีภายในเดือน ก.ย.จากนั้นเมื่องบประมาณปี 68 เริ่มใช้ได้ในเดือน ต.ค.67 ก็จะสามารถแจกเงินให้กับผู้ที่ลงทะเบียนไว้ 30 ล้านคนได้ ซึ่งหากระบบเสร็จทันก็จะแจกผ่านดิจิทัล วอลเล็ตเพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจมีความแม่นยำ
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเหมือนเม็กซิโก โคลัมเบีย ฟิลิปปินส์ ที่มีเศรษฐกิจใต้ดินสูงมาก เกือบ 50% เรื่องเศรษฐกิจใต้ดิน มี 2 ส่วนสำคัญ เรื่องยาเสพติด พนันออนไลน์ คนไทยขาดทุนให้กับออนไลน์ต่างประเทศ ปีละ 1.7 แสนกว่าล้านถ้าใต้ดินมาบนดินได้จะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นถึง 50% ประชาชนจะมีความสามารถใช้หนี้เพิ่มขึ้น
เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยได้ ดึงดูเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ยกตัวอย่างหากมาลงทุนตั้งใน กทม.อาจจะต้องมีมูลค่าลงทุนถึงแสนล้านบาท อาจมี 2 ใบอนุญาต หรือหากตั้งในต่างจังหวัดอาจจะลงทุนราว 5 หมื่นล้านบาท
“เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ในหลายประเทศ พื้นที่คาสิโนจริงๆไม่ถึง 10% ของพื้นที่ทั้งหมด คือ กติกาที่ใช้กัน ในกรุงเทพต้องลงทุนแสนล้าน เราจะเติมในสิ่งที่ขาด เราไม่มี Concert Hall lใหญ่ เราจะเรียกร้องให้เขาลงทุนสร้างได้”
เรื่องยาเสพติดก็มีเยอะมาก คนทำงานส่วนหนึ่งติดยา แต่สมัยนี้คงไม่สามารถปราบได้เหมือนในมัยที่ตนเองเป็นนายกรันมนตรี เพราะฐานการผลิตอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน สิ่งที่ทำได้คือต้องเอาคนติดยามาบำบัด
และเรื่องการทำมาหากิน เริ่มไม่ทันโลก อุตสาหกรรมไม่ทันโลกต้องปรับโครงสร้าง ต้องไปชวนต่างประเทศมาลงทุน อย่างกรณีของดาต้าเซนเตอร์ เมื่อมีข้อกังวลเรื่องค่าไฟและพลังงานสีเขียว ถ้าจำเป็นต้องเปิดให้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ สิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย
อีกเรื่องรถอีวี ตอนช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีสนับสนุนอีโคคาร์ด้วยการใช้มาตรการภาษีสรรพสามิต เมื่ออีวีจีนมาอยากขอร้องว่าให้ไทยเป็นฐานผลิตรถอีวีพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอีโคซิสเต็มในอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน
และอย่างกรณีของจีนกำลังยิงดาวเทียม 5 หมื่นดวงเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีการสื่อสาร 6G การยิงดาวเทียว จีนทำเยอะมาก เราน่าจะเชิญจีนมาอยากให้ช่วยกันคิด
ปัญหาของ SME วันนี้กำลังตาย เพราะผลิตสินค้าหมือนๆกัน ทำง่ายๆ ไม่มีการทำแบบออกแบบพิเศษ เมื่อสินค้าจากจีนเข้ามาราคาถูกกว่า ทำให้เราแข่งขันไม่ได้ ปัญหาของเราคือ เราต้องคิดว่าจะแก้อย่างไร จะต้องให้ทำเป็นสมาร์ท SME มากขึ้น และต้องดูว่าสินค้าจีนทำถูกต้องกฏหมายหรือไม่ ไม่ได้รังเกียจสินค้าจีนแต่ต้องเท่าเทียมกันในการแข่งขัน
ด้านการเกษตรก็เป็นแบบวิถีชีวิตมากกว่า ควรจะต้องนำเทคโนโลยีนวัตกรรมเข้ามายกระดับ เราต้องปฏิรูปการเกษตรใหม่ พันธุ์พืชต่างๆ หรือข้าวสู้เวียดนามไม่ได้ เพราะดินเราใช้มานาน เวียดนามทำการเกษตรไม่นาน คุณภาพของเขาดีกว่า เราต้องใช้วิจัยและพัฒนาช่วย เราต้องอยู่กับธุรกิจที่มีต้นทุนสูงขึ้น เราต้องไม่แข่งกันตัดราคา
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า หน้าต่างเศรษฐกิจไทย คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะนี้มีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือที่หายไป มีนักลงทุนต่างชาติขายหุ้น หุ้นตกมาก เพราะมีปัญหาเกิดขึ้นในเรื่อง GC ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเห็นว่าการแก้ไขปีญหาต่าง ๆ ทำช้าเกินไปและไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ในด้านซอฟพาวเวอร์ เราอยากส่งเสริมในทุกรูปแบบ อย่างเรื่องกีฬามวย ตนได้แนะนำให้ทำเป็นลีกแบบฟีฟ่าในกีฬาฟุตบอลได้หรือไม่ และจะมีการเทรนกรรมการให้มีมาตรฐานเหมือนฟีฟ่า และเรื่องอีสปอร์ตเราอยากสนับสนุนให้ทำจริงจัง เราอยากช่วยผ่านดีมานด์ไซด์ สนับสนุนให้คนไทยสร้างเกมส์เอง และเรื่องอาหารไทย ครัวไทยสู่ครัวโลก ต้องฟื้นกลับมา ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยผ่านหน้าต่างครัวไทยที่อยู่ต่างประเทศ
ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง งบกระตุ้นเศรษฐกิจสามารถมาใช้แก้น้ำท่วมน้ำแล้งได้ การถมทะเล บางขุนเทียน ขยายความแออัด กทม. ส่วนหนึ่งสร้างให้เมืองสีเขียวเป็นเมืองใหม่ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น ป้องกันน้ำท่วมกทม. วันนี้จำเป็นที่จะต้องมีการป้องกันเตรียมน้ำท่วมจากทุกที่ ซึ่งการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำถือว่าเป็นการได้พื้นที่มากขึ้นและได้แหล่งท่องเที่ยวในเมือง รถไฟฟ้า 20 บาท คงต้องทำให้ได้ เราอาจต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนบริหาร เพื่อมากำหนดราคาตั๋วเอง และต้องตั้งเป็นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมา
เขตทับซ้อนทางทะเลกับต่างประเทศต้องมีการเจรจาแก้ปัญหาข้อตกลงกัน ไม่เช่นนั้น น้ำมัน ก๊าซ ต่อไปใช้ไม่ได้แล้ว ตนกำลังให้ไปศึกษาโมเดลของนอร์เวย์ทำอย่างไรให้นำทรัพยากรธรรมชาติแบ่งให้กับประชาชนทั้งประเทศ ทำให้ไปเฉลี่ยพลังงานนำเข้า ทำให้ใช้พลังงานได้ถูกลง
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ทั่วโลก ขายที่ดินให้คนต่างชาติ ให้ประเทศไทยเป็นบ้านที่ 2 ของเขา ถ้าเราจะทำสมมติว่าจะขายที่ดินให้นาย A ตกลงราคาเรียบร้อยก็โอนฉโนดให้กรมธนารักษ์ดูแล แต่นาย A ได้สัญญาเช่าที่มั่นคง 99 ปี โดยตกลงราคาซื้อขายกันเอง โดยมีข้อห้ามนำพื้นที่ไปทำการเกษตรแข่งกับคนไทย ทำให้สมดุลระหว่างให้เศรษฐกิจเติบโตแต่ต้องดูแลคนที่มีโอกาสน้อย
ในเรื่องของภาษีจะปรับอย่างไรให้เป็นธรรมและแข่งขันได้ ภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ลดได้อีกหรือไม่ แต่ถ้าไปขึ้นภาษี VAT มาชดเชยก็เดือดร้อนคนระดับล่าง แต่ VAT คืนได้และต้องคืนทันที ทำให้คนมีรายได้น้อยไม่เดือดร้อน นำไปสู่อยากเห็นคนไทยกรอกภาษีทั้งหมด คนไทยรายได้ต่ำก็คืนภาษีไป คนไหนรายได้เยอะก็เก็บเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตนเองได้แนะนำให้กระทรวงการคลังศึกษา Negative Income Tax เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์
นายทักษิณ กล่าวว่า เราอยู่ในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม มันพังไปหลายที่ เพราะขาดความเอื้ออาทร วันนี้ถ้าเราไม่มีความเอื้ออาทรของคนมีกำลัง เราจะเติบโตลำบากหรือพิการ ไม่ว่าจะเป็นรัฐ เอกชน ต้องเอื้ออาทรคนที่ไม่มีกำลังทรัพย์ ความรู้ ต้องให้โอกาสเขา
“ผมอยากให้คนไทยรักกัน ผมนี่โดนเยอะที่สุด ทำไมผมถึงเจอคนนั้น พบคนนี้ได้ เพราะอดีตก็อดีตไป ไม่ใช่ความจำเสื่อม จำได้หมด ผมอยากอยู่ปัจจุบันและอนาคต ถ้าขาดความสามัคคีทำไม่ได้เลย วันนี้เห็นว่ารัฐบาลใหม่มีพรรคร่วมเยอะ ประเทศพัฒนาได้ง่ายขึ้น แก้กฏหมายที่ทำให้คนลำบากก็แก้ได้ ถึงเวลารวมน้ำใจให้เป็นหนึ่ง ผมรักบ้านเมือง อยากเห็นบ้านเมือง อยู่เบื้องหลัง ช่วยคิดทั้งภาครัฐและเอกชน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 67)
Tags: คืนภาษีคนจน, ทักษิณ ชินวัตร, รถไฟฟ้า, วิสัยทัศน์, หนี้สิน, เศรษฐกิจไทย