นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางปี 67 เป็น 10-15% เทียบ YoY จากเดิมที่ 10-12% เนื่องจากปริมาณขายทุกช่องทางสร้างการเติบโตสูงจากปัจจัยภายในของทางบริษัทฯ รวมถึงอุปสงค์การใช้น้ำมันในครึ่งปีหลังมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และคาดว่าจะขยายจำนวนสถานีบริการเป็น 2,251 สถานีบริการภายในปีนี้
แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเชื่อว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเติบโตในธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT ที่ทำได้สูงตามเป้าอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน-การท่องเที่ยว รวมถึงการขยาย Touchpoint ทั้งธุรกิจน้ำมัน Non-Oil และกลยุทธ์ปรับปรุงสถานีเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้ลูกค้าขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/67 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 302.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวม 57,775 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil มีรายได้ 53,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 11.9% เป็น 1,716 ล้านลิตร ส่งผลทำให้บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ผ่านช่องทางค้าปลีกผ่านสถานีบริการ PT เพิ่มขึ้นเป็น 22.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่มีสัดส่วน 19.5%
ส่วนธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เพิ่มขึ้น 24.5% เป็น 4,153 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้ 2,305 ล้านบาท เติบโต 13.1% เนื่องจากมีปริมาณการจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องจำนวน 174 ล้านลิตร หรือเพิ่มขึ้น 12.4% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG โดยรวมยังคงมาจากกลุ่ม Auto LPG จากการดำเนินโครงการ Taxi Transform และ Auto Transform ด้วยเป้าหมายในการสร้างความ อยู่ดี มีสุข ให้กับลูกค้าในทุกช่วงของชีวิตและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
ประกอบกับมีการเข้ามาใช้บริการของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus โดยบริษัทยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มของปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 1 ในไตรมาส 2/67 ที่ 29.8% และมีจำนวนสถานีบริการ Auto LPG ที่จำนวน 246 สถานี ขณะที่กลุ่มครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9.8 % เทียบ YoY เป็น 37 ล้านลิตร ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทคาดการณ์การขยายจุดจำหน่าย Gas Shop และ Auto LPG เป็น 738 จุด
ด้านธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.2% เป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/67 มีจำนวนสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยทั้งสิ้น 1,028 สาขา เพิ่มขึ้น 46.2% นับเป็นการขยายสาขาแตะหลักพันเป็นครั้งแรก โดยมีการกลับมาซื้อซ้ำ ของลูกค้ารายเดิมและจากกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปีนี้ทางบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายการขยายสาขาของกาแฟพันธุ์ไทยไว้ที่ 400 สาขา
ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ธุรกิจ Non-Oil บริษัทยังคงวางแผนขยายสาขาและ Touchpoints อย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าในปี 67 วางเป้าจำนวนสาขาธุรกิจ Non-Oil อื่น ๆ เป็น 961 Touchpoints เพิ่มขึ้น 329 Touchpoints การขยายสาขาจำนวนหลัก ๆ มาจาก ธุรกิจศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs, สถานีอัดประจุไฟฟ้า Elex by EGAT PT, และสาขาร้านสะดวกซื้อ Max Mart เป็นต้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 67)
Tags: PTG, น้ำมัน, พิทักษ์ รัชกิจประการ, พีทีจี เอ็นเนอยี, หุ้นไทย