ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า โควิด-19 สายพันธุ์ KP.3.1.1 ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐอยู่ในขณะนี้ และเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยโควิดในประเทศเพิ่มจำนวนสูงขึ้น
ข้อมูลจาก CDC ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (19 ส.ค.) คาดการณ์ว่า KP.3.1.1 จะคิดเป็นสัดส่วน 31-43% ของตัวอย่างผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 20-26% ในช่วง 2 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.
การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ KP.3.1.1 สอดคล้องกับตัวชี้วัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐที่ยังคงเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลการทดสอบเป็นบวก การถูกส่งตัวเข้าแผนกฉุกเฉิน และการเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
ทั้งนี้ CDC แนะนำให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรง โดยวัคซีนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จะสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจในช่วงฤดูการแพร่ระบาดปี 2567-2568 และจะเริ่มให้บริการแก่ประชาชนได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นอกจาก KP.3.1.1 ซึ่งอยู่ในตระกูลโอมิครอน (Omicron) แล้ว JN.1 เป็นโควิดอีกสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดในสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 67)
Tags: CDC, COVID-19, สหรัฐ, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์ KP.3.1.1