ภาคธุรกิจของสหรัฐออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบทางไซเบอร์ที่รัฐบาลฮ่องกงเสนอ หวั่นอาจเปิดทางให้รัฐบาลฮ่องกงเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทได้ ซึ่งนับเป็นความท้าทายล่าสุดที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของชาติตะวันตกที่ดำเนินธุรกิจในฮ่องกงต้องเผชิญ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาพันธ์อินเทอร์เน็ตแห่งเอเชีย (AIC) ซึ่งรวมถึง แอมะซอน เมตา และกูเกิลของบริษัทอัลฟาเบท ต่างออกโรงวิจารณ์กฎระเบียบใหม่ดังกล่าว ซึ่งทางการฮ่องกงอ้างว่าจัดทำขึ้นเพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจากการโจมตีทางไซเบอร์ โดยคาดว่าจะนำไปใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในและนอกฮ่องกง
นักวิจารณ์ระบุว่า มาตรการนี้เป็น “สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โดยข้อกังวลหลักคือ กฎระเบียบดังกล่าวเปิดช่องให้ทางการมีอำนาจมากเกินไป ด้วยการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ของตนเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่สำคัญของบริษัทเอกชน และติดตั้งโปรแกรมบนอุปกรณ์เหล่านั้นได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจคุกคามความถูกต้องสมบูรณ์ของผู้ให้บริการ ทั้งยังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจดิจิทัลของฮ่องกง
ขณะเดียวกัน หอการค้าอเมริกันและหอการค้าฮ่องกงยังได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้มีการรับฟังความเห็นสาธารณะเกี่ยวกับกฎระเบียบดังกล่าวด้วย
“การให้อำนาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนดังกล่าวจะแทรกแซงการดำเนินงานของ CIO โดยตรง และอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้บริการ” หอการค้าอเมริกันระบุในจดหมายลงวันที่ 1 ส.ค. พร้อมเสริมว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้ “อาจส่งผลกระทบที่น่ากังวล” ต่อการลงทุนด้านเทคโนโลยีในฮ่องกงด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลและสำนักงานความมั่นคงของฮ่องกงยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับข้อกังวลดังกล่าวของภาคธุรกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 67)
Tags: ภาคธุรกิจ, ระบบคอมพิวเตอร์, สหรัฐ, ฮ่องกง, เทคโนโลยี