ผู้บริโภคชาวจีนซื้อทองคำน้อยลงในเดือนก.ค. เนื่องจากราคาที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวกระทบความต้องการทองคำในจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อทองคำแท่งรายใหญ่สุดของโลก
สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (20 ส.ค.) ว่า การนำเข้าทองคำในเดือนก.ค. ลดลง 24% แตะที่ 44.6 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปี ลดลงต่อเนื่องจากเดือนมิ.ย. ที่ร่วงลงอย่างฮวบฮาบถึง 58% จากเดือนพ.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความต้องการโลหะมีค่าของจีนที่พุ่งสูงสุดในเดือนม.ค. เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองในตลาดโลกพุ่งทะลุ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม หากการชะลอตัวของอุปสงค์ในจีนยังคงดำเนินต่อไป อาจเป็นเรื่องยากที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปสูงกว่านี้
ราคาทองแท่งที่พุ่งสูงขึ้นนั้นได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่ว่าทองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงแรงซื้อจากผู้บริโภคในเอเชียและธนาคารกลางทั่วโลก ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางจีน (PBOC)
ยอดการนำเข้าทองคำที่ลดลงอย่างมากแสดงให้เห็นว่า ราคาที่สูงลิ่วและเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อชาวจีน ซึ่งได้รับแรงกดดันอยู่แล้วจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศที่ยืดเยื้อ และสกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่าลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 67)
Tags: จีน, ทองคำ, เศรษฐกิจจีน