ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีรักษาการ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยประกาศอิสรภาพกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่รับใช้มานานพอแล้วถึง 6 ปี และถึงเวลาที่จะเดินออกมาอย่างไม่ขอทะเลาะกับใคร
“ประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมา ผมรับใช้บุคคลบุคคลหนึ่ง พรรคพรรคหนึ่งมามากพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องเดินออกมาแบบไม่ทะเลาะกับใคร…ชีวิตผม ไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่ไหน ชีวิตผม ไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเป็นนักการเมือง ปี 2561 ผมเข้าสู่เวทีการเมืองด้วยความบังเอิญ แล้วมาสร้างพรรคพลังประชารัฐกับพี่น้องนักเรียนเตรียมทหารนายร้อย จปร.หลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านเกษียณไปหมดแล้ว เหลือผมยังอยู่คนเดียว ดังนั้น วันนี้คงถึงเวลาที่ผมต้องประกาศความเป็นอิสรภาพของผมเอง” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ
สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่า “ไม่คุยครับ คุยทำไม ในเมื่อท่านไม่ใช้ผมแล้ว ผมก็ไม่คุย…หลังจากนี้ ผมกับกลุ่มพี่น้องก็พร้อมที่จะไปไหนก็ได้ที่มีความสุข ไม่แสวงหาความทุกข์เข้าตัวเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ขับออกจากพรรคจะทำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ถ้าไม่ขับ ก็อยู่กันไปอย่างนี้”
อย่างไรก็ดี ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า บ่ายนี้จะไม่เดินทางไปที่พรรคพลังประชารัฐแล้ว เพราะมีนัดรับประทานอาหารกลางวัน และหารือถึงสถานการณ์ดังกล่าวกับ สส.ภายในกลุ่ม ช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง
“เดี๋ยวก็รู้ เอาเป็นว่า เราจะแยกออกมาให้มันชัดเจนไปเลยว่าจะอยู่ยังไงกัน แต่ผมจะไม่ทำลายบ้านเมือง ไม่ทำลายรัฐบาล ย้ำว่าไม่ใช่การแตกหัก ผมไม่เลือกที่จะทะเลาะกับใคร พี่น้องคงเห็นแล้วว่าในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ผมรักคนคนหนึ่งมาก ใช้ให้ผมไปตาย ผมก็ยังไปตายเลย แล้วท้ายสุด ผมก็ประสบอุบัติเหตุทางการเมืองอย่างที่เห็น ผมว่า ผมพอแล้ว ยืนยันว่า ไม่ได้แตกหักกับท่านหัวหน้า (พปชร.) แต่ผมอยากใช้ชีวิตให้สงบสุข” เลขาธิการ พปชร. กล่าว
ส่วนการเสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาของพปชร. ให้กับพรรคเพื่อไทยนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่ว่าพรรคเสนอชื่อไปแล้ว จะได้ตามนั้นทั้งหมด
“เราต้องเคารพการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ใครคิดจะเขียน หรือเสนอชื่อใครแล้วผู้นำรัฐบาลจะต้องเอาตามนั้น โดยเฉพาะกรณีที่เกิดขึ้นกับอดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นจะทำอะไรก็ตาม ต้องคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก อย่าหลงอำนาจจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้จักความชั่วดี บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้ว อย่าให้เกิดความแตกแยกอีกเลย” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
สำหรับการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น หลังมีบทเรียนจากกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีแล้วนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเป็นนักการเมืองต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมเลือกที่จะไม่ทะเลาะ บทเรียนชีวิต 6 ปี พอแล้วสำหรับการเมือง ผมมั่นใจในสิ่งที่ตัดสินใจ ไม่ต้องห่วง ผมถอยออกมาสุดๆ แล้ว” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 67)
Tags: การเมือง, ธรรมนัส พรหมเผ่า, ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พรรคพลังประชารัฐ