ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) (CGSI) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามความคาดหมาย โดยมองเชิงบวกต่อความรวดเร็วในการยุติสุญญากาศทางการเมืองของสภา และคาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่ประกอบด้วยพรรคร่วมเดิมน่าจะกลับมาเริ่มทำงานได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ เชื่อว่าช่วยลดความกังวลของนักลงทุนต่อความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะหากรัฐบาลชุดใหม่น่าจะยังคงมาตรการประชานิยมของรัฐบาลชุดเดิมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
รัฐบาลใหม่คาดว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากเป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทยที่มี น.ส. แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค จึงเชื่อว่าหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคจะกลับมาดีดตัวขึ้น แม้รัฐบาลใหม่อาจตัดสินใจระงับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่จะยังคงเสนอมาตรการที่มีลักษณะคล้ายกันมาทดแทนเพื่อแจกเงินให้กับผู้ได้รับสิทธิกลุ่มเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรคเพื่อไทยและเป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องการคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า
ดังนั้น ยังคงเป้าดัชนี SET สิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,420 จุด เท่ากับ P/E 15 เท่าในปี 68 หรือ -1SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี โดยคำแนะนำจะมี upside risk หากธนาคารกลางสหรัฐปรับลด Fed Fund rate เชิงรุก และการเปิดตัวกองทุนวายุภักษ์มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมเปิดขายในไตรมาส 3/67 ส่วน downside risk จะมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อ, ความล่าช้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ
สำหรับหุ้น Top pick ประกอบด้วย AMATA ราคาเป้าหมาย 28.75 บาท, BBL ราคาเป้าหมาย 183 บาท, BCH ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท, CBG ราคาเป้าหมาย 80 บาท, CPALL ราคาเป้าหมาย 77 บาท , CRC ราคาเป้าหมาย 46 บาท, KLINIQ ราคาเป้าหมาย 58 บาท และ PTTEP ราคาเป้าหมาย 189 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 67)
Tags: AMATA, BBL, BCH, CBG, CGSI, CPALL, CRC, KLINIQ, PTTEP, ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล, หุ้นไทย