สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นในวันนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ รวมทั้งขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียเริ่มฟื้นตัว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราเอเชีย
ดัชนี Bloomberg Asia Dollar Index ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งถึง 0.6% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยเงินวอนของเกาหลีใต้และเงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าขึ้นนำตลาด โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในประเทศ ขณะที่เงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้น หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองคลี่คลายลง
ทั้งนี้ ริงกิตแข็งค่าขึ้น 1.5% แตะที่ระดับ 4.3678 ริงกิตต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 หลังจากมาเลเซียเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ส่วนเงินบาทแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 34.409 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดจะคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะสุญญากาศทางการเมืองของไทยหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เงินบาทอาจเผชิญกับแรงกดดัน ท่ามกลางกระแสข่าวว่ารัฐบาลชุดใหม่อาจจะยกเลิกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าลงเหลือ 20% จากเดิมที่ระดับ 25% โดยอ้างอิงถึงรายงานยอดค้าปลีกและตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์นี้ (23 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 67)
Tags: สกุลเงินเอเชีย, เศรษฐกิจถดถอย, เศรษฐกิจเอเชีย