ดร.เอ้-สุชัชวีร์ แนะนายกฯ หากเร่งรัด 4 นโยบายจะได้ใจประชาชน

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 พร้อมเสนอให้ดำเนินการ 4 นโยบายเพื่อยกระดับสังคมไทย ซึ่งจะได้รับความชื่นชมจากประชาชน

โดยระบุว่า ในสภาวะสังคมไทยอ่อนแอลงทุกวัน สังคมไทยกำลังห่อเหี่ยวรอความหวังในการปฏิรูปสังคมและเศรษฐกิจสู่โลกยุคดิสรัปชั่นที่ต้องแข่งขันด้วยทรัพยากรมนุษย์ เน้นทักษะขั้นสูงทดแทนการใช้แต่ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเน้นเรื่องปริมาณการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนโยบายของรัฐบาลหนึ่งปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ยังไม่เข้าฝัก ไม่เป็นรูปธรรม

แม้นายกรัฐมนตรีทุกคนต้องเน้นเรื่องปากท้องเพราะเป็นความทุกข์ใกล้ตัวประชาชน แต่มี 4 เรื่องสำคัญที่ขอฝากให้ช่วยยกระดับสังคม เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและลูกหลาน ได้แก่

1.”การศึกษาต้องมาก่อนและเริ่มทันที” นายกรัฐมนตรีต้องเน้นเรื่องการปฏิรูปการศึกษาแบบจริงจัง เพราะเป็นเรื่องระยะยาว ไม่อาจเห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ไม่ทำแบบขอไปที ต้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่ของเด็กไทยทุกคน ในฐานะเป็นแม่ที่มีลูกเล็ก ย่อมรู้ดีที่สุดว่าคุณภาพการศึกษาของเด็กปฐมวัยคือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ผู้นำรัฐบาลในทุกประเทศชั้นนำจะลงมากำกับดูแลคุณภาพเด็กด้วยตัวเอง วางแผนระยะยาว ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาทำแทนแบบขอไปที

2. “ขจัดยาเสพติด ทุกรูปแบบ” นายกรัฐมนตรีอ่อนโยนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องยาเสพติดต้องแข็งกร้าว ไม่เอายาเสพติด คงไม่ต้องไปทำวิสามัญ แต่ต้องใช้กฏหมายอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม เพื่อป้องกันลูกหลานให้ห่างไกลจากอันตรายยาเสพติดทุกประเภท ปัญหายาเสพติดไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง แต่ต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้นำประเทศทุกคน

3.”ความปลอดภัยสาธารณะ คือ สิทธิขั้นพื้นฐาน” นายกรัฐมนตรีต้องรักและห่วงใยประชาชนเสมือนคนในครอบครัว ต้องสร้างสังคมที่ลูกหลานปลอดภัย ไปไหนไม่ต้องกังวลว่า จะถูกรถมาชนบนทางม้าลาย ของจะหล่นใส่หัว เดินไปโรงเรียนจะตกท่อ โรงงานสารเคมีข้างบ้านจะระเบิด เพราะสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ คือ การดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย คือมาตรวัดคุณภาพชีวิตของคนไทย คือมาตรวัดผลงานรัฐบาล ทั้งเรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำร้ายสุขภาพเด็กไทยอย่างรุนแรง รัฐบาลที่ผ่านมามักแก้ปัญหาแบบตามฤดูกาล ต้องแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ

4.”รัฐบาลโปร่งใส ไม่คอร์รัปชั่น” นายกรัฐมนตรีต้องใจแข็ง ใครก็รู้ว่าการเมืองไทยกับปัญหาการคอรัปชั่นอยู่คู่กันมานาน แต่นายกฯ ได้เปรียบ เพราะมีผู้มีพลังหนุนหลัง ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องขอใคร ไม่ต้องเกรงใจใคร ทำสิ่งที่ถูกต้องได้โดยไม่มีข้ออ้าง การลดคอร์รัปชั่นจะเป็นสัญญานบวกที่มีพลังมากที่สุดต่อภาคธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ใครก็อยากมาลงทุนในประเทศไทย เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินใต้โต๊ะ เงินทุนก็เข้าระบบ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ส.ค. 67)

Tags:
Back to Top