กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (16 ส.ค.) ว่า ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะใช้กฎระเบียบการค้าต่างประเทศกับอุปกรณ์การผลิตชิป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาห่วงโซ่อุปทานให้มีเสถียรภาพ
กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเมื่อลงทุนโดยตรงในอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป รวมถึงการเข้าซื้อหุ้น 1% หรือมากกว่าในบริษัทจดทะเบียน หรือซื้อหุ้นในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมาตรการใหม่นี้มุ่งเป้าลดความเสี่ยงของการรั่วไหลของเทคโนโลยี และป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อ “ภาคธุรกิจหลัก” ประกอบด้วยชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง, ชิ้นส่วนเครื่องมือกล, เครื่องยนต์ทางทะเล, สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และเครื่องจักรมัลติฟังก์ชัน พร้อมเสริมว่า ภาคธุรกิจหลักนั้นครอบคลุมผลิตภัณฑ์สำคัญทั้งหมดที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวสอดคล้องกับความพยายามของญี่ปุ่นในการฟื้นฟูกำลังการผลิตของตนในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นเสาหลักของกลยุทธ์ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้จัดสรรงบประมาณไว้แล้วประมาณ 4 ล้านล้านเยน (2.69 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล อีกทั้งรัฐบาลกำลังร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อส่งเสริมการลงทุนในการผลิตชิปในประเทศเพิ่มเติม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ส.ค. 67)
Tags: ชิป, รัฐบาลญี่ปุ่น, ห่วงโซ่อุปทาน