สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PSA) เปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า อัตราความยากจนในฟิลิปปินส์ลดลงจาก 18.1% ในปี 2564 เหลือ 15.5% ในปี 2566 อย่างไรก็ตาม ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลดลงของจำนวนคนจนเป็นไปอย่างจำกัด
PSA เปิดเผยว่า มีคนฟิลิปปินส์ที่อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนราว 17.54 ล้านคน ซึ่งลดลงไป 2.4 ล้านคนเมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อ 2 ปีก่อน
ทั้งนี้ PSA จัดว่าบุคคลใดก็ตามที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้ออาหารและของใช้จำเป็นขั้นพื้นฐาน ถือเป็น “คนจน”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ตั้งเป้าลดอัตราความยากจนให้เหลือแค่ 9% ให้ได้ก่อนที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ จะหมดวาระในปี 2571
“ถ้าราคาอาหารไม่พุ่งสูงขนาดนี้ อัตราความยากจนก็น่าจะลดลงได้มากกว่านี้อีกเยอะ” นายเดนนิส มาปา หัวหน้า PSA กล่าวในการแถลงข่าว
อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2566 อยู่ที่ 6.0% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2%-4%
ทุก ๆ สองปี PSA จะทำการสำรวจรายได้และค่าใช้จ่ายของครัวเรือน เพื่อประเมินสถานการณ์ความยากจนและตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ โดย PSA เปิดเผยว่า การสำรวจครั้งนี้ได้สัมภาษณ์ครอบครัวไปมากกว่า 160,000 ครัวเรือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 67)
Tags: ปัญหาความยากจน, ฟิลิปปินส์, ราคาอาหาร, สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์