สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า ในวันที่ 16 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 12.22 น. ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2 ของปี หากสังเกตวัตถุที่อยู่กลางแดดจะดูเสมือน #ไร้เงา เนื่องจากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดี ทั้งนี้ อาจไม่ใช่วันที่ร้อนที่สุด เนื่องจากอากาศร้อนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับกรุงเทพมหานคร ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปี สำหรับดวงอาทิตย์ตั้งฉากครั้งที่ 2 ของปีนี้ ดวงอาทิตย์โคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย เริ่มจากบริเวณเหนือสุดของประเทศ ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นดวงอาทิตย์จะเคลื่อนที่ขยับมาตั้งฉากกับพื้นที่ใต้ลงไปเรื่อย ๆ และจะตั้งฉากกับพื้นที่ใต้สุดของประเทศไทย ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในวันที่ 7 กันยายน 2567
“ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก” เป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นทุกปี และสามารถคำนวณได้ล่วงหน้า การคำนวณหาวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นที่ต่าง ๆ บนโลก จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งพิกัดละติจูด-ลองจิจูดของแต่ละพื้นที่
สำหรับพื้นที่ประเทศไทย จะคำนวณวันที่เกิดปรากฏการณ์ โดยอ้างอิงพิกัดจากอำเภอเมืองของจังหวัดนั้น ๆ เป็นหลัก จากนั้นหาเดือน และวันที่ที่ค่าพิกัด (declination) ของดวงอาทิตย์ ตรงหรือใกล้เคียงกับละติจูดของพื้นที่นั้น ๆ พร้อมหาค่ามุมเงยของดวงอาทิตย์ขณะเคลื่อนที่ผ่านแนวลองจิจูด วันที่ดวงอาทิตย์มีมุมเงยสูงที่สุด หรือใกล้เคียงกับตำแหน่งจุดเหนือศีรษะ (90 องศา) มากที่สุด คือวันที่มีปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก สังเกตได้จากเงาของวัตถุจะอยู่ตกอยู่ใต้วัตถุในระนาบเดียวกันพอดี
สำหรับจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ก็อาจเกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ตั้งฉากได้ถึง 2 วัน นอกจากนี้ หากใช้ตำแหน่งพิกัดอ้างอิงที่ต่างกัน ก็อาจส่งผลต่อการกำหนดวันที่เกิดปรากฏการณ์ด้วยเช่นกัน
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทย อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรระหว่างละติจูด 5-20 องศาเหนือ ส่งผลให้ใน 1 ปี ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่ดังกล่าวถึง 2 ครั้ง หากสังเกตวัตถุที่อยู่กลางแดดจะดูเสมือนไม่มีเงา เนื่องจากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดี ไม่เฉียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 67)
Tags: กรุงเทพมหานคร, ดวงอาทิตย์, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ, อากาศร้อน, ไร้เงา