บรรดาผู้ผลิตเหล็กกล้าของจีนปรับลดกำลังการผลิตลงเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอุปสงค์ที่ซบเซาบีบให้ต้องลดการผลิตลงอย่างมากในอุตสาหกรรม
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ยอดการผลิตเหล็กกล้าในเดือนก.ค. ลดลงประมาณ 9% ทั้งเมื่อเทียบรายเดือนและรายปี สู่ระดับ 82.94 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดที่มีการรายงานในปี 2567 และส่งผลให้ยอดการผลิตทั้งหมดในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 แตะที่ 613.72 ล้านตัน ซึ่งลดลง 2.2% จากปีก่อนหน้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และกิจกรรมในภาคการผลิตที่อ่อนแอลงได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศในปีนี้ โดยราคาเหล็กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี และโรงงานถลุงเหล็กประสบปัญหาขาดทุน
นอกจากนี้ บริษัทไชน่า เป่าอู่ สตีล กรุ๊ป คอร์ป (China Baowu Steel Group Corp) ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของจีนได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ว่า อุตสาหกรรมเหล็กของจีนกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่รุนแรงมากกว่าภาวะชะลอตัวที่เคยเกิดขึ้นในปี 2551 และ 2558
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหล็กกล้าเผชิญปัญหาการผลิตในปริมาณที่มากเกินไปมานานหลายปี และทางการจีนได้พยายามจำกัดการผลิตให้เท่ากับหรือต่ำกว่าระดับของปีก่อนเพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษ หลังจากที่ปริมาณการผลิตเหล็กนั้นพุ่งสูงขึ้นทะลุ 1 พันล้านตันในปี 2563
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 67)
Tags: จีน, เหล็กกล้า