หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวันอังคาร (13 ส.ค.) โดยอ้างอิงเอกสารที่ได้รับมาว่า ในปี 2559 นายฮันเตอร์ ไบเดน ได้ติดต่อทูตสหรัฐประจำประเทศอิตาลี ในช่วงเวลาที่บิดาของเขา คือโจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ การติดต่อนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามผลักดันโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพกับบริษัทบูริสมา (Burisma) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของยูเครนที่นายฮันเตอร์เองนั่งเก้าอี้บอร์ดบริหารด้วย
รายงานระบุว่า นายฮันเตอร์ได้เขียนจดหมายอย่างน้อยหนึ่งฉบับถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสถานทูตในกรุงโรม โดยเขียนในนามของบูริสมา
ด้านนายแอ็บบี โลเวลล์ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพุธ (14 ส.ค.) ว่า นายฮันเตอร์และคนอื่น ๆ ได้ขอให้นายจอห์น ฟิลลิปส์ ทูตสหรัฐประจำอิตาลี ณ ขณะนั้น และคนอื่น ๆ ช่วยแนะนำพวกเขาให้รู้จักกับประธานแคว้นทัสคานีในอิตาลี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่บริษัทฯ หมายตาปักหลักทำโครงการ
“ไม่มีการประชุม ไม่มีโครงการเกิดขึ้นจริง ไม่มีการร้องขอสิ่งใดในสหรัฐ มีแค่ขอให้ติดต่อแนะนำตัวในอิตาลีเท่านั้น จดหมายดังกล่าว รวมถึงจดหมายที่คนอื่น ๆ ที่บูริสมาเขียน ไม่ได้ขออะไรมากไปกว่าให้ช่วยติดต่อขอแนะนำตัวเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทนับร้อยทำเป็นประจำทุกปีกับทูตและสถานทูตต่าง ๆ” นายโลเวลล์กล่าว
แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับความพยายามดังกล่าวยืนยันกับนิวยอร์กไทม์สว่า โครงการดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ นิวยอร์กไทม์สระบุว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าสถานทูตสหรัฐในอิตาลีได้ดำเนินการใด ๆ ในนามของบริษัทบูริสมาหรือไม่
นายฮันเตอร์ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการล็อบบี้ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันเคยกล่าวหาปธน.ไบเดนและครอบครัวว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตทางการเงิน ซึ่งทางทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า ปธน.ไบเดนไม่เคยทำธุรกิจกับนายฮันเตอร์ และไม่ทราบเรื่องการติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับข้อตกลงกับบูริสมาแต่อย่างใด
ด้านนายฟิลลิปส์กล่าวกับนิวยอร์กไทม์สว่า ตนได้รับจดหมายมากมายจนไม่สามารถจดจำได้ว่ามีจดหมายจากฮันเตอร์หรือไม่ และหากมีจริง ตนก็คงไม่จำเป็นต้องตอบกลับ เพราะอาจถูกมองว่าเป็นการให้ความสนใจเป็นพิเศษ
นายเอนรีโค รอสซี ประธานแคว้นทัสคานี ณ ขณะนั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยพบกับนายฮันเตอร์ และไม่เคยได้รับการติดต่อจากสถานทูตสหรัฐเกี่ยวกับแผนงานของบูริสมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายฮันเตอร์ยังมีคดีรุมเร้าอีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีเลี่ยงภาษีที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 5 ก.ย. นี้
ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อัยการในคดีภาษีเพิ่งออกมากล่าวหาว่า นายฮันเตอร์รับเงินจากนักธุรกิจชาวโรมาเนียที่พยายาม “ชักจูงหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ” เกี่ยวกับการสอบสวนคดีอาญาในโรมาเนีย
ขณะเดียวกัน นายฮันเตอร์ยังมีคดีความผิดฐานให้การเท็จเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดเพื่อซื้ออาวุธปืน โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 13 พ.ย.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 67)
Tags: ทูตสหรัฐ, อิตาลี, โจ ไบเดน