นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ โดยมีแรงกดดันจากในประเทศเป็นหลัก หลังวานนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีผลให้คณะรัฐมนตรี สิ้นสุดทั้งคณะ ส่งผลให้เข้าสู่สุญญากาศทางการเมือง ซึ่งต้องติดตามดูกระบวนการต่อจากนี้ที่จะมีการนัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งอาจจะกระทบกับการเบิกจ่ายงบประมาณไปบ้าง ขณะที่หากเป็นรัฐบาลที่ยังมาจากขั้วอำนาจเดิม คาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็น่าจะมีความล่าช้าออกไป แต่คงไม่ถึงกับยกเลิกโครงการอย่างที่หลายคนมีความกังวลกันอยู่
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง 2 วันติดต่อกัน คาดจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้ด้วย
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ ตอบรับตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเมื่อคืนที่ออกมาชะลอตัวตามคาด
หนุนความเชื่อมั่นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
ให้แนวรับ 1,280-1,270 จุด และแนวต้าน 1,300-1,310 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,008.39 จุด เพิ่มขึ้น 242.75 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,455.21 จุด เพิ่มขึ้น 20.78 จุด หรือ +0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,192.60 จุด เพิ่มขึ้น 4.99 จุด หรือ +0.03%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ 36,381.40 จุด ลดลง 61.03 จุด หรือ -0.17%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 17,008.21 จุด ลดลง 105.15 จุด หรือ -0.61% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,844.20 จุด ลดลง 6.45 จุด หรือ -0.22%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 ส.ค.) 1,292.69 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 53,414.91 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 482.25 ล้านบาท (14 ส.ค.)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.(14 ส.ค.) ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 76.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 ส.ค.) อยู่ที่ 4.62 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 35.14 อ่อนค่า รับเงินเฟ้อสหรัฐตามคาดหนุนดอลลาร์แข็งค่า-กังวลการเมืองในปท.
– ไม่รอด! ศาล รธน.มีมติ 5 ต่อ 4 สั่ง “เศรษฐา” พ้นเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” ปมตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรีทั้งที่ขาดคุณสมบัติ ชี้ผิดมาตรฐานจริยธรรม ร้ายแรง-ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ส่งผล “รัฐมนตรี” พ้นตำแหน่งทั้งคณะ “เสี่ยนิด” แถลงน้อมรับคำวินิจฉัย บอกเสียใจถูกชี้เป็นนายกฯ ไม่มีจริยธรรม มั่นใจไม่ใช่คนแบบนั้น ลั่นไม่คิด ว่าถูกวางยา บอกผิดหวังทุกเรื่องโหดร้ายหมด รับยังห่วงทุกอย่าง แต่ฉากนี้มันจบลง แล้ว “อดีต สว.สมชาย” ระบุถือเป็นบรรทัด ฐานแต่งตั้งรัฐมนตรี
– “ทักษิณ” เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า รีบปิดดีลนายกฯ คนที่ 31 หัวหน้า-แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปพร้อมเพรียง สะพัด เสนอชื่อ “ชัยเกษม” นั่งนายกฯ คงโควตา ครม.เดิม “เลขาฯ สภา” ทำหนังสือด่วนที่สุด นัดประชุมโหวตวันศุกร์นี้ “ภูมิธรรม” การันตี “ชัยเกษม” แข็งแรงแล้ว หารือ ครม.รักษาการ เดินหน้างานต่อ “อนุทิน” ส่งกำลังใจ “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง ยังไม่คิดอะไรหลังสปอตไลต์ส่อง ยันเคารพกติกา
– “เศรษฐา” โยนนายกฯ ใหม่ตัดสินใจสานต่อดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ แจงตนหมดหน้าที่แล้วตั้งแต่มีคำตัดสิน “จุลพันธ์” ห่วงความเชื่อมั่น-เศรษฐกิจชะงัก หลัง “เศรษฐา” พ้นนายกฯ เผยยอมรับคำวินิจฉัยของศาลฯ คาดมีผลกระทบกับโครงการของรัฐบาลที่ยังคงค้างอยู่ ระบุ “ดิจิทัลวอลเล็ต” จะไปต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลใหม่
หุ้นเด่นวันนี้
– COM7 (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 24.50 บาท ราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นช่วงเดือน ก.ย. เนื่องจากเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง iPhone ของ แอปเปิ้ล รวมถึง บริษัทมีโครงการซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 800 ลบ.และ จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 45 ล้านหุ้น หรือ 1.9% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว และ 1) ผลกำไรที่น่าจะกลับมาเติบโตได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้,2) โอกาสที่จะเกิดวัฎจักรการเปลี่ยนเครื่องมือถือ และ โน้ตบุ๊ค จากการมาของชิปเซต และ แอพ ที่เกี่ยวข้องกับ AI,3) ราคาหุ้นถึอว่าค่อนข้างถูกที่ 14เท่าของกำไรสุทธิปีนี้ เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 29.29เท่า
– AOT (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท บาท จุดสะสมที่ดีรับผลประการกลับมาฟื้นในครึ่งปีหลัง รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/67 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 4.6 พันล้านบาท (+42%YoY,-21%QoQ) ซึ่งสอดคล้องกับประมาณการของเราและตลาด ด้านทิศทางกำไรไตรมาส 4/67 (เดือนก.ค.-ก.ย.) คาดจะฟื้นตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY หลังจากผ่านช่วง Low Seasonของภาคการท่องเที่ยว หนุนผลการดำเนินงานทั้งปีเราคาด Core EPS Growth ปี 67 ขยายตัว 118.3%YoY หุ้นตอบรับความกังวลการเรียกคืนพื้นที่
Duty Free ทั้งขาเข้า ขาออกมากเกินไปจนทำให้ราคาปรับลงไปเกือบ 10% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ประเมินจากทิศทางผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัว นอกจากนี้ยังมี Upside เพิ่มเติบหากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสมากกว่าเป้าหมายของทางการที่ 35ล้านคนและของเราที่ 36 ล้านคน โดยทุกๆการเกินเป้า 1 ล้านคน จะทำให้กำไร AOT
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 67)
Tags: ตลาดหุ้น, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล