นางเสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น (BKGI) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.67) มีรายได้รวม 87.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4 ล้านบาท หรือ 45% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 60.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9 ล้านบาท หรือ 379% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2.9 ล้านบาท
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 156.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5 ล้านบาท หรือ 14% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 137.2 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท หรือ 27% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 18.5 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ มีความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนหลายราย ซึ่งเริ่มทยอยประกาศการลงนามสัญญาความร่วมมือระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมา โดยการจับมือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการแพทย์จีโนมิกส์, ประกาศเจตจำนงความร่วมมือในการประชุมนานาชาติด้านจีโนมิกส์ ครั้งที่ 19 (ICG-19) ระหว่างศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ, ลงนามความร่วมมือทางวิชาการแลกเปลี่ยนความรู้การแพทย์จีโนมิกส์ กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ลงนามความร่วมมืองานวิจัยและวิทยาศาสตร์การแพทย์ไทย-จีน กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของบริษัทฯ เพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปลายปี 67 นี้ และเร่งขยายการให้บริการใหม่ๆ ด้านการแพทย์จีโนมิกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการและดึงดูดกลุ่มลูกค้า ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากการที่มีจำนวนฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“BKGI มีความพร้อมทั้งฐานทุนที่แข็งแกร่ง รองรับกับศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจ ผ่านศาสตร์การแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) ซึ่งมี BGI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ให้การสนับสนุนถ่ายทอดเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ให้กับ BKGI ในฐานะ Flagship รองรับแผนขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในปี 67 ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 30% จากปีก่อน” ดร.เสาวลักษณ์ กล่าว
นายกิตติคุณ รอดรังนก ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน BKGI กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/67 มาจากรายได้จากการให้บริการตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยเจริญพันธุ์เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการทำการตลาดเกี่ยวกับการบริการมากขึ้น ทำให้เป็นที่รู้จักในตลาดอย่างแพร่หลาย รวมถึงรายได้จากการขายเครื่องมือทางการแพทย์ และน้ำยาในการตรวจให้กับโครงการจัดตั้งห้องแลปของโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ และจากการมีพันธมิตรทางการค้าเพิ่มมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 67)
Tags: BKGI, หุ้นไทย, เสาวลักษณ์ ด่านสกุล, แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น