รัฐบาลสหรัฐอนุมัติการขายเครื่องบินขับไล่และยุทโธปกรณ์ทางการทหารประเภทอื่น ๆ รวมมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอล ในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซาดำเนินมาถึงเดือนที่ 10 แม้กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือเพนาตากอนระบุว่า การส่งมอบอาวุธดังกล่าวจะยังคงไม่เกิดขึ้นในอีกหลายปีก็ตาม
เพนตากอนระบุในแถลงการณ์ว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอนุมัติการขายเครื่องบินรบ F-15 และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ มูลค่าเกือบ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมด้วยกระสุนรถถัง มูลค่า 774 ล้านดอลลาร์, กระสุนปืนครกมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลลาร์ และยานพาหนะทางการทหารมูลค่า 583 ล้านดอลลาร์
เพนตากอนระบุว่า เครื่องบินรบ F-15 ของโบอิ้งคาดว่าจะใช้เวลาหลายปีในการผลิตและการส่งมอบ โดยคาดว่าจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2572 ขณะที่อุปกรณ์อื่น ๆ จะเริ่มส่งมอบได้ในปี 2569
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการส่งมอบอาจเริ่มขึ้นเร็วกว่าปี 2569
เพนตากอนระบุว่า “สหรัฐสนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอล และการช่วยให้อิสราเอลพัฒนาและรักษาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองที่แข็งแกร่งและพร้อมเสมอนั้น เป็นสิ่งสำคัญต่อผลประโยชน์ของสหรัฐด้วยเช่นกัน”
นายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โพสต์ผ่านเอ็กซ์ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐที่คอยช่วยอิสราเอลรักษาความได้เปรียบทางการทหารเชิงคุณภาพ และขอบคุณที่สหรัฐสนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอล
เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในเดือนมิ.ย.ว่า สหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญที่สุดและเป็นผู้จัดหาอาวุธของอิสราเอล ได้ส่งระเบิดทำลายล้างสูงน้ำหนัก 2,000 ปอนด์มากกว่า 10,000 ลูกและขีปนาวุธเฮลไฟร์ (Hellfire) หลายพันลูกให้กับอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้นในเดือนต.ค.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่ฉนวนกาซาและทำให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะเดียวกันสหรัฐได้พยายามร่วมมือกับชาติพันธมิตรที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ย เพื่อให้ยุติการสู้รบ โดยคาดหวังว่าจะสกัดกั้นไม่ให้การสู้รบบานปลายในตะวันออกกลาง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 67)
Tags: สหรัฐ, อาวุธ, อิสราเอล