JKN ตั้ง Special Audit ตรวจสอบให้สิ้นสงสัยหลังมีข้อโต้แย้งจนศาลเลื่อนตั้งผู้ทำแผน 2 รอบแล้ว

บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) เปิดเผยว่า บริษัทขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีมติอนุมัติการสรรหาและพิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยสมัครใจ เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ซึ่งได้รับการชี้แจงจากผู้สอบบัญชี บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด (“ผู้สอบบัญชีธรรมนิติ”) ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกิจกรรมดำเนินการของบริษัทฯ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐาน เกี่ยวกับรายการที่มีข้อสังเกต โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ของบริษัทฯ มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามนโยบายคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการอนุมัติต่อไป

อนึ่ง คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) โดยละเอียด รอบคอบ แล้ว เห็นสมควรให้อนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ด้วยเหตุผลประการสำคัญดังนี้

1. เพื่อให้เกิดความชัดเจน ครบถ้วน ถูกต้อง ในการทำธุรกรรมของบริษัทฯ การทำบัญชี และรายงาน/เอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมและการทำบัญชีของบริษัทฯ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานการสอบบัญชีและระบบการควบคุมภายใน(Internal Audit) ตลอดจนหลักธรรมาภิบาลที่ถูกต้องและดำเนินตามธุรกิจที่ควรต้องเป็น อีกทั้ง เพื่อตรวจสอบและสอบทานการดำเนินงานของผู้ตรวจสอบภายใน ฝ่ายปฏิบัติงาน และฝ่ายบัญชี เพื่อไม่ให้เกิดข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาด หรือข้อสงสัยในการทำธุรกรรมและการทำบัญชีของบริษัทฯ

นอกจากนี้ เห็นว่า การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ(Special Audit) เพื่อทำการตรวจสอบและสอบทานคู่ขนานกันไปนั้น จะสามารถลดระยะเวลาในการทำงานของผู้สอบบัญชีในการสอบทานงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางในคดีฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ (ลูกหนี้) มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทำแผนของบริษัทฯ แล้วได้อีกด้วย

2. ตามที่ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ มีข้อโต้แย้ง/คัดค้านโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นผลให้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานชี้แจงข้อโต้แย้งตามคำร้องและมีคำสั่งให้เลื่อนนัดพิจารณาตั้งผู้ทำแผนของบริษัทฯ อีกเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เนื่องด้วยเหตุที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องยื่นคำแถลงคัดค้านเพิ่มเติม จึงเห็นว่า เพื่อให้การทำธุรกรรมของบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ปราศจากข้อสงสัย และหลีกเลี่ยงข้อโต้แย้ง/คัดค้านใด ๆ ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ในอนาคต จึงเห็นสมควรพิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ให้กรณีสิ้นข้อสงสัย

3. เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถตรวจสอบได้ในการบริหารกิจการและการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ทุกฝ่าย

ขณะที่บริษัทฯ ได้แต่งตั้ง บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ คอร์ปอเรท แอ็ดไวเซอรี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด(เบเคอร์ ทิลลี่) ในเครือ Baker Tilly International ผู้เชี่ยวชาญการฟื้นฟูกิจการและปรับโครงสร้างทางการเงินชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่ผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ (ผู้ทำแผน) ซึ่งจะมีการแต่งตั้งในวันนัดฟังคำสั่งศาลในวันที่ 29 สิงหาคม 2567

โดยหลังจากแต่งตั้งผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว เบเคอร์ ทิลลี่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ทำแผนฯ ในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย เบเคอร์ ทิลลี่ เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ที่มีความเชี่ยวชาญในการปรับโครงสร้างหนี้ การฟื้นฟูกิจการ และการปรับโครงสร้างธุรกิจและการเงิน ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานให้บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในประเทศไทยทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ เบเคอร์ ทิลลี่ มีบริษัทย่อย คือ บริษัท คอร์ปอเรท อินดีเพนเดนท์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ทำแผนและบริหารแผนจากกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม โดย เบเคอร์ ทิลลี่ มีความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสที่แตกต่างกันของแต่ละธุรกิจ รวมถึงการทำแผนฟื้นฟูการบริหารทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตน (ลิขสิทธิ์) นอกจากนี้ ยังมีทีมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาเข้ามาร่วมรับผิดชอบจัดทำแผนและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการให้แก่ JKN

สำหรับแนวทางของ เบเคอร์ ทิลลี่ ในฐานะที่ปรึกษาการทำแผนฟื้นฟูกิจการคือ ประเมินเหตุผลและความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ การตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสินทรัพย์ หนี้สินและภาระผูกพันอื่นๆ ของลูกหนี้ โดยใช้หลักการและวิธีการดำเนินงานของ เบเคอร์ ทิลลี่ ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูกิจการและพระราชบัญญัติล้มละลาย

ขณะที่ JKN อยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานการบริหารทรัพย์สินลิขสิทธิ์คอนเทนต์สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์ 3C: Content Commerce Contest โดยเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์และการเป็นเจ้าขององค์กรนางงามจักรวาล ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ซึ่งเป็นแบรนด์ทรงพลังที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เพื่อต่อยอดแบรนด์ Miss Universe สู่ผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมียมที่หลากหลายทำตลาดทั่วทุกภูมิภาคของโลกอย่างเต็มรูปแบบ สร้างความมั่นคงด้านผลการดำเนินงานและมีกระแสเงินสดที่เข้มแข็ง

“เราพร้อมจะทำงานอย่างหนักเพื่อพลิกฟื้นกิจการและเร่งนำเงินมาคืนหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ด้วยทีมผู้บริหารชุดใหม่ทั้งจากไทย เม็กซิโกและอเมริกา ร่วมกันทำงานกับ เบเคอร์ ทิลลี่ คอร์ปอเรท แอ็ดไวเซอรี่ เซอร์วิสเซส โดยนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทุกฝ่ายในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ สร้างความโปร่งใสในการดำเนินงาน ฟื้นฟูกิจการนำพาองค์กรให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง” นายจักรพงษ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ส.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top