คณะกรรมการมรดกโลกขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) หรือยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งหนึ่งในฉนวนกาซา ได้แก่ อารามนักบุญฮิลาเรียน หรือ ตัลล์ อุมม์ อามิร (Tell Umm Amer) เป็น “มรดกโลก” และ “มรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตราย” เมื่อปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
องค์การยูเนสโกระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของอารามโบราณแห่งนี้ และความจำเป็นในการได้รับความคุ้มครอง
คณะกรรมการได้ขึ้นทะเบียนอารามแห่งนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอารามที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง ไว้ในทั้งสองรายชื่อผ่านขั้นตอนฉุกเฉินตามที่ระบุไว้ในอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยขั้นตอนดังกล่าวช่วยให้สามารถเร่งขึ้นทะเบียนสถานที่ที่กำลังเผชิญภัยคุกคาม
“ความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา ซึ่งอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ ถือเป็นสถานการณ์ที่ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปได้”
โฆษกขององค์การยูเนสโกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
จนถึงขณะนี้องค์การยูเนสโกกล่าวว่า เมื่อดูจากภาพถ่ายดาวเทียมแล้ว ยังไม่พบความเสียหายใด ๆ ที่เกิดกับสถานที่ดังกล่าว
ยูเนสโกระบุว่า ในการขึ้นทะเบียนดังกล่าว 196 รัฐภาคีขององค์การยูเนสโก หรือประเทศที่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญามรดกโลกที่องค์การรับรองในปี 2515 จะต้องหลีกเลี่ยงการสร้างความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมและมอบความช่วยเหลือในการปกป้องสถานที่ดังกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อิสราเอลไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การยูเนสโก แต่เป็นรัฐภาคี ซึ่งหมายความว่าอิสราเอลมีข้อผูกพันตามเงื่อนไขของอนุสัญญาในการป้องกันและไม่ทำลายอารามดังกล่าว
อิสราเอลถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2561 โดยกล่าวหาว่าองค์การฯ มีอคติต่อต้านอิสราเอล และยิ่งวิจารณ์หนักขึ้นหลังยูเนสโกยอมรับ “รัฐปาเลสไตน์” เข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี 2554
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 67)
Tags: UNESCO, ฉนวนกาซา, มรดกโลก, ยูเนสโก