FTI เซ็น MOU ศึกษาแผนร่วมทุน “ANGEL” บิ๊กระบบกรองน้ำไฮเอนด์จากจีนเสริมศักยภาพค้าปลีก

นายวิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) เปิดเผยว่า บริษัทลงนามในบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (MOU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และแผนธุรกิจของโครงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ ANGEL HEALTH TECHNOLOGY PRIVATE LIMITED (ANGEL) ซึ่งเป็นบริษัทจัดตั้งตามกฎหมายประเทศสิงคโปร์ และมีบริษัทแม่ตั้งอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และแผนธุรกิจในการร่วมทุนจัดตั้งบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า, ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำครบวงจรในระดับไฮเอนด์ รวมถึงการให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรอบระยะเวลา MOU 180 วันนับตั้งแต่วันที่ลงนาม

การลงนาม MOU ในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจค้าปลีกระบบกรองน้ำให้กับ FTI เนื่องจาก ANGEL เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบกรองน้ำระดับไฮเอนด์ มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการทำตลาดค้าปลีกมาอย่างยาวนาน ด้วยผลิตภัฑณ์ที่ได้รับการออกแบบให้ทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยี เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง มี lifestyle ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่หรู ดูดี สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งในด้านการใช้งาน และภาพลักษณ์ที่ดี ด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปี มีจำนวนช่องทางจำหน่ายผ่านร้านค้ามากกว่า 10,000 แห่งใน 65 ประเทศทั่วโลก

และที่สำคัญ ANGEL มีฐานการผลิตหลักในประเทศจีน 3 แห่ง และในประเทศมาเลเซีย 1 แห่ง โดยฐานการผลิตที่เมือง Shaoxing มีพื้นที่ประมาณ 600,000 ตารางเมตร นับเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบกับ ANGEL ให้ความสำคัญกับการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงประสิทธิภาพที่สูง สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในพื้นที่จำกัด และยังมีห้องปฏิบัติการวิจัยคุณภาพน้ำในประเทศจีนอีกด้วย

“จุดแข็งของ FTI มาจากการเติบโตของธุรกิจค้าส่ง ขณะที่ตลาดค้าปลีกเราเริ่มทำตลาดได้ไม่นาน จึงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่งในการพัฒนา ซึ่งการร่วมมือกับ ANGEL ซึ่งมีความพร้อมทั้งในด้านของประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีก และฐานการผลิต รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมระบบกรองน้ำที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดหวังว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงผ่านการทำตลาดค้าปลีก และโมเดิร์นเทรดให้แพร่หลายมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น สามารถต่อยอดการเติบโตให้กับ FTI ได้ในอนาคต” นายวิกร กล่าว

ขณะที่ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 422.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 399.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.62 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ส.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top