ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลว่า จำนวนคู่รักชาวจีนที่แต่งงานกันในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 เนื่องจากคนหนุ่มสาวจำนวนมากได้เลื่อนการแต่งงานออกไป ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและค่าครองชีพที่สูง
รายงานระบุว่า อัตราการแต่งงานมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับอัตราการเกิด และแนวโน้มดังกล่าวน่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้กำหนดนโยบายที่พยายามอย่างหนักเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี
ข้อมูลการจดทะเบียนสมรสของจีนระบุว่า จำนวนคู่รักที่แต่งงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่ 3.43 ล้านคู่ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้าที่ 498,000 คู่
ทั้งนี้ การแต่งงานนั้นเป็นขั้นตอนที่จำเป็นก่อนการมีบุตร ด้วยเหตุที่สิ่งจูงใจและนโยบายของรัฐจำนวนมากกำหนดให้บิดามารดาต้องแสดงใบทะเบียนสมรสเพื่อยื่นจดทะเบียนบุตรและขอรับสิทธิประโยชน์จากรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คนหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมากเลือกที่จะครองโสดหรือชะลอการแต่งงานออกไป เพราะกังวลว่าจะเผชิญกับโอกาสด้านการงานที่ไม่ดี รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับอนาคต ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
นายเหอ หยาฟู ผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส ว่า อัตราการแต่งงานของจีนปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ปี 2557 แม้จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในปี 2566 หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 แต่อัตราการแต่งงานในปีนี้คาดว่าจะลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523
นายเหอมองว่า สาเหตุที่คู่รักชาวจีนจดทะเบียนสมรสน้อยลงเป็นผลมาจากจำนวนคนหนุ่มสาวลดลง ประชากรชายที่สามารถแต่งงานได้มีมากกว่าจำนวนประชากรหญิง ค่าใช้จ่ายในการแต่งงานที่สูง และทัศนคติที่เปลี่ยนไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 67)
Tags: จีน, แต่งงาน