ผลสำรวจจาก HSBC ที่รวบรวมโดยเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยในวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า กิจกรรมภาคบริการของอินเดีย ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลัก ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ค. 2567 จากความต้องการที่ยังคงสูง ส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ต้นทุนที่สูงขึ้นจะผลักดันให้ราคาขายพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปีก็ตาม
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดีย แตะระดับ 60.3 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 60.5 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 61.1
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราการขยายตัวยังคงอยู่ในระดับสูง และดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 36 ติดต่อกัน นับเป็นการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจในเดือนธ.ค. 2548
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ปราณจุล ภัณฑารี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำอินเดียของ HSBC กล่าวว่า “กิจกรรมภาคบริการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือนก.ค. โดยมีธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่บริษัทในภาคบริการยังคงมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มในปีหน้า”
ความต้องการที่แข็งแกร่งและสภาวะที่เอื้ออำนวยช่วยหนุนดัชนีย่อยด้านธุรกิจใหม่ให้เพิ่มขึ้น แม้ความต้องการจากต่างประเทศจะชะลอตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับการพุ่งทะยานสูงสุดในรอบทศวรรษในเดือนมิ.ย. แต่ก็ยังบ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ
ดัชนีย่อยด้านธุรกิจส่งออกใหม่แตะระดับสูงสุดเป็นอันดับสามนับตั้งแต่มีการเพิ่มดัชนีย่อยดังกล่าวในการสำรวจในเดือนก.ย. 2557 โดยอันดับหนึ่งและสองเกิดขึ้นเมื่อปีนี้ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ตามลำดับ
แนวโน้มความต้องการที่แข็งแกร่งผลักดันให้ความคาดหวังสำหรับกิจกรรมในอีก 12 เดือนข้างหน้าฟื้นตัวขึ้น ดันดัชนีย่อยด้านกิจกรรมในอนาคตให้สูงขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนมิ.ย.
ผลจากแนวโน้มที่ดีนี้นำไปสู่การจ้างงานในระดับสูงอีกครั้ง แม้จะลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 22 เดือนในเดือนมิ.ย. โดยบริษัทต่าง ๆ จ้างพนักงานเพิ่มเพื่อรองรับการขยายตัว
อนึ่ง การสร้างงานให้กับประชากรวัยหนุ่มสาวเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐบาลอินเดีย และภาคบริการได้สร้างงานมานานกว่า 2 ปีแล้ว แม้จะอยู่ในอัตราที่ไม่สูงมากนัก
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงวางแผนที่จะจัดสรรเงิน 2 ล้านล้านรูปี (2.4 หมื่นล้านดอลลาร์) ในอีก 5 ปีข้างหน้า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศในงบประมาณล่าสุด
ทั้งนี้ ต้นทุนวัตถุดิบและแรงงานที่สูงขึ้นเป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ให้บริการในเดือนก.ค. ส่งผลให้มีการปรับเพิ่มราคาในอัตราที่เร็วขึ้น
ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อราคาขายเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนก.ค. และเป็นระดับสูงสุดร่วมกันในรอบ 7 ปี เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ส่งผ่านต้นทุนไปยังลูกค้า
ทั้งนี้ ข้อมูลสำหรับเดือนมิ.ย.ที่เผยแพร่เมื่อเดือนก.ค.แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. เป็น 5.08% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายระยะกลางของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ที่ 4.00%
ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า RBI น่าจะผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในไตรมาสหน้าเป็น 6.25% อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความเห็นที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของอินเดีย แตะระดับ 58.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเมื่อรวมกับการลดลงเล็กน้อยของภาคบริการ ทำให้ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการอยู่ที่ 60.7 ในเดือนก.ค. ลดลงจาก 60.9 ในเดือนมิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 67)
Tags: ดัชนี PMI, อินเดีย