นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประชาชนได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเลตแล้ว เมื่อ 06.00 น. เช้าวันนี้ 18.3 ล้านคน แม้อาจจะขลุกขลักบ้างในวันแรก แต่ยอดการลงทะเบียนถือว่าเยอะมาก ซึ่งยอดลงทะเบียนบ่งบอกได้หลายอย่าง การที่รัฐบาลใช้แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีใหม่ ๆ ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวและเข้าใจดีขึ้น รวมถึงแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ก็มีความเสถียรในจุดหนึ่ง แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับเรื่องการป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้น
สำหรับกรณีที่พูดถึงการจะนำเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไปแลกเป็นเงินสดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีวิธีการป้องกัน ซึ่งในเวลา 11.00 น. ตนจะเดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อพบกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยจะพูดคุยในเรื่องนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จะไม่มีการรั่วไหล
ส่วนกรณีที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2567 ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ไปแล้ว แต่ยังมีผู้ไปยื่นร้องศาลปกครอง จะมีผลทำให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตสะดุดหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจในความสุจริต และมั่นใจในที่มาที่ไปของโครงการนี้ และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องตอบทุกข้อสงสัยขององค์กรอิสระทั้งหลาย
“ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นอะไร ขออย่าไปคาดเดาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น หากเกิดขึ้น ก็ดีลมันไปให้ได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ส.ค. 67)
Tags: Digital Wallet, ดิจิทัลวอลเลต, ทางรัฐ, นายกรัฐมนตรี, ลงทะเบียน, เศรษฐา ทวีสิน, แอปพลิเคชัน