นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เดือนส.ค. ว่า มองกรอบการแกว่งตัวของดัชนี SET จะกว้างขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดือน ก.ค. ส่วนหนึ่งจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศที่อาจจะเข้ามากระทบกับภาพตลาดมากขึ้น ประเมินแนวรับของดัชนีที่ 1,300 จุด และ 1,270 จุดตามลำดับ ส่วนแนวต้านประเมินที่ 1,340 จุด และ 1,370 จุด ตามลำดับ
สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ออกมาล่าสุดนั้น ถือว่ามีทิศทาง Dovish พอสมควร และน่าจะทำให้การลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งถึงแม้จะเป็นปัจจัยที่ตลาด Price in ไปแล้ว 100% แต่มองว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของสภาพคล่องโลกได้ อาทิ เม็ดเงินที่คงค้างอยู่ในบัญชี FCD มีโอกาสไหลออกย้อนกลับมาเข้าสู่ตลาดทุนไทยมากขึ้น
นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงท่าทีของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะเริ่มหันมาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/67 เช่นกัน ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วงเวลาดังกล่าวได้ไม่ยาก
นายณัฐชาต กล่าวว่า กลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในเดือน ส.ค. แนะนำกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจดังนี้
1. กลุ่มหุ้นโรงกลั่นที่ Valuation ลงมาต่ำมาก และเตรียมผ่านพ้นจุดต่ำสุดของ Earnings ในช่วงไตรมาส 2 ได้แก่ TOP, BCP, SPRC
2. กลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้าที่ราคาหุ้นรับข่าวการตรึงค่า Ft ไปแล้ว และได้ Sentiment เชิงบวกจากการปรับลงของ Bond yield ได้แก่ GULF, GPSC, BGRIM
3. กลุ่มส่งออกที่มียอดการส่งออกในเดือนล่าสุดอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ได้แก่ STA, NER, TEGH, COCOCO, AAI, ITC, TU, GFPT, CPF, KCE
4. กลุ่มหุ้นโรงพยาบาลที่มี Low beta เหมาะสำหรับการ Hedging ปัจจัยการเมืองในประเทศ และยังเตรียมเข้าสู่ช่วง High season ในไตรมาส 3 ได้แก่ BDMS, BH, BCH, CHG
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 67)
Tags: SET, ณัฐชาต เมฆมาสิน, ตลาดหุ้นไทย, ทรีนีตี้, หุ้นไทย