นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน. จะเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
1. การจำหน่ายให้กับประชาชน วงเงิน 35,000 ล้านบาท ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ วอลเล็ต สบม. (สะสมบอนด์มั่งคั่ง) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วงเงิน 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยจะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13-30 ส.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
โดยจะเปิดจำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป วงเงินขั้นต่ำ 100 บาท และวงเงินสูงสุด 50 ล้านบาท (หน่วยละ 100 บาท) ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน และเติมเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง หรือผูกบัญชีธนาคารกรุงไทย รวมถึงเติมเงินด้วย Wallet ID ที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ส่วนการจัดสรรจะใช้วิธี First-Come, First-Served (มาก่อนได้รับสิทธิ์ก่อน)
2. การจำหน่ายผ่านช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมกับธนาคารตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย วงเงิน 25,000 ล้านบาท โดยจะเปิดให้จองซื้อได้ในวันที่ 19-21 ส.ค. 67 ประกอบด้วยรุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
โดยจะเปิดจำหน่ายให้กับบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย หน่วยละ 1,000 บาท วงเงินขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินขั้นสูงสุด โดยจะหน่ายผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง, โมบายแบงก์กิ้ง และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง วิธีการจัดสรรแบบ Small Lot First (การทยอยจัดสรรฯ)
นอกจากนี้ จะมีการจำหน่ายให้กับนิติบุคคลไม่แสวงหากำไร ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด อาทิ สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลอื่นที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย และไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยจะเปิดจำหน่ายในวันที่ 26 – 27 ส.ค. 2567 รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี โดยจะทำการจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จำหน่ายหน่วยละ 1,000 บาท วงเงินซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูงสุด โดยจำหน่ายผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 6 แห่ง ด้วยวิธี First-Come, First-Served
“การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ในครั้งนี้ เป็นการกู้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปีงบ 2567 ปกติ ไม่ได้เป็นการดำเนินการเพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด โดยตามแผนจะต้องมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์ 100,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการออกไปแล้ว 40,000 ล้านบาท และครั้งนี้อีก 40,000 ล้านบาท หากจำหน่ายหมดก็จะไม่มีการจำหน่ายเพิ่มอีก เนื่องจากเมื่อพิจารณาฐานะการคลัง เงินคงคลังมีเพียงพอ และเหมาะสมแล้ว” นายพชร กล่าว
ส่วนแผนการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ในปีงบประมาณ 2568 นั้น ยังรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะก่อน
อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลังในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจเป็นอย่างดี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ และยังถือเป็นการสนับสนุนการออมของประเทศด้วย
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย มองว่า ดอกเบี้ยในตลาดโลก โดยเฉพาะในประเทศขนาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าจะเข้าสู่ช่วงขาลง โดยตลาดมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2567 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่คงไม่ใช่ 1-2 เดือนนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 67)
Tags: พชร อนันตศิลป์, พันธบัตรออมทรัพย์, สบน.