นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยืนยันว่า ระบบการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เป็นระบบที่มีความปลอดภัยสงสุด เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งในขณะนี้มีประชาชนเข้ามาโหลดและลงทะเบียนในแอปฯ “ทางรัฐ” เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อวัน และมีการลงทะเบียนมาแล้วรวม 10 กว่าล้านคน และถือเป็นประโยชน์กับระบบมากที่จะทำให้การโหลดของระบบเป็นอย่างราบรื่น และจนถึงปัจจุบันยังไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในอนาคตแอปฯ “ทางรัฐ” จะกลายเป็นซุปเปอร์แอปฯ ที่จะเป็นศูนย์รวมบริการภาครัฐเป็นจำนวนมาก และมีหน่วยงานของรัฐมาเชื่อมต่อในเรื่องบริการหลายๆส่วน ซึ่งในส่วนกลไกดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา เพราะมีการเตรียมพร้อมรองรับ แต่บางหน่วยงานที่มาเชื่อมต่อ กระบวนการที่ประชาชนได้เข้าทดลองใช้ดูบางส่วนยังมีความล่าช้า เพราะไม่ได้เตรียมการเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อดี ที่จะได้เห็นข้อจำกัดบริการของภาครัฐ และคงมีการประสานงานเพื่อให้อัพเกรดเรื่องปริมาณการเข้าถึงให้มากขึ้นต่อไป
พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่ใกล้ถึงช่วงที่เงินเข้ากระเป๋าประชาชนแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆครบถ้วน ข้อสังเกตต่างๆ เรารับมาพิจารณาและปรับแก้มาเป็นลำดับ
“ตอนนี้ตัวโครงการอยู่ในจุดที่เชื่อมั่นว่า สิ้นปีนี้เงินถึงมือประชาชนแน่นอน โดยทั้งหมดเป็นไปตามกรอบกฏหมายทุกประการ”นายจุลพันธ์ กล่าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า กระทรวงดีอี รับผิดชอบในส่วนของการลงทะเบียน และให้คำปรึกษาประชาชนเกี่ยวกับการลงทะเบียน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเรายังมีศูนย์ดิจิทัลชุมชนอีก 2,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ ยังมีสายด่วน 1111 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงาน โดยประชาชนทั่วไปที่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง แต่หากใครทำไม่เป็น ก็สามารถเข้ามาตามจุดที่ให้บริการได้
ส่วนความกังวลในข้อมูลส่วนบุคคลของแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่ประชาชนเกรงจะรั่วไหลนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ตั้งแต่ให้ประชาชนเริ่มเข้าไปตรวจสอบสิทธิ ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งผิดปกติ โดยหน่วยงานที่ตรวจสอบ คือ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ที่ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัย ดังนั้นยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วง
สำหรับวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ที่สภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 จำนวน 1.2 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายประเสริฐ มั่นใจว่า สภาฯ จะผ่านความเห็นชอบในวาระ 2 และ 3 เชื่อว่า สส.ที่ได้รับฟังปัญหาของประชาชน จะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะโครงการนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
นายประเสริฐ ยังมั่นใจว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ ตามที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศไว้ตอนหาเสียง และจะเรียกศรัทธาประชาชนกลับมาได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 67)
Tags: ดิจิทัลวอลเล็ต, ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ทางรัฐ, ประเสริฐ จันทรรวงทอง, ไปรษณีย์ไทย