ตามที่มีหลายฝ่าย แสดงความกังวลกับคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยวันที่ 14 ส.ค.นี้ ว่าจะส่งผลกระทบกับโครงการดิจิทัลหรือไม่นั้น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า อยากให้แยกประเด็นปัญหาเรื่องการเมืองกับเรื่องเศรษฐกิจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา จะเห็นว่าปัญหาการเมืองยังไม่เห็นมีเรื่องไหนนิ่ง มีประเด็นเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เราก็ต้องเดินต่อไป
“ผมเชื่อว่าไม่ว่าการเมืองจะไปทางไหน ไม่ว่าใครจะมา ใครจะไป ก็คงอยากจะทำในสิ่งที่มันต้องทำกันทั้งนั้น” นายพิชัย ระบุ
ส่วนประเด็นการใช้งประมาณปี 2567 ข้ามปีสำหรับทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายพิชัย กล่าวว่า โครงการไหนที่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดผลต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่น ก่อให้เกิดการลงทุน เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ผูกพันกับเศรษฐกิจ ถือเป็นรายจ่ายลงทุนชนิดหนึ่ง ดังนั้นโดยทั่วไป ถ้าโครงการที่จะดำเนินการมีผลผูกพันกับเศรษฐกิจ และมีการยืนยันว่าจะใส่เงินเข้าไปแล้ว ก็ถือเป็นการการันตี ก็ควรจะผูกพันการใช้งบประมาณได้
ส่วนเรื่องรัฐบาลยังไม่ได้กำหนดวันใช้จ่ายเงินดิจิทัลอย่างชัดเจน โดยระบุเบื้องต้นว่าจะใช้ได้ในไตรมาส 4/67 นั้น มองว่า อยากให้รู้ข้อมูลการลงทะเบียนที่ครบถ้วนก่อน ว่ามีคนแสดงความสนใจเท่าไร มาลงทะเบียนเท่าไร หากข้อมูลส่วนนี้ครบถ้วน จะทำให้การตัดสินใจชัดเจนมากขึ้น
นายพิชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพลังงาน มีแนวคิดในการแก้ไขกฎหมายภาษีน้ำมัน และดึงอำนาจในการพิจารณาเรื่องโครงสร้างภาษีน้ำมันมาดูแลเอง ว่า ขอรับเรื่องนี้กลับไปพิจารณาก่อน เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว โครงสร้างภาษีประเทศไทยน่าจะได้รับการทบทวนใหม่
“หากลองพิจารณาระยะยาวอีก 30 ปี คนเลิกใช้น้ำมัน แล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีที่ไหน จะเก็บอะไรแทน รัฐบาลจะอยู่อย่างไร ดังนั้นเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปคิดถึงข้างหน้า จะต้องคิดว่าจะทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร จะลดตัวไหน จะเพิ่มตัวไหน เป็นเรื่องที่คนดูแลเรื่องนี้จะต้องรับไปทำเป็นการบ้าน” รองนายกฯ และรมว.คลัง ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 67)
Tags: กระทรวงการคลัง, การเมือง, ดิจิทัลวอลเล็ต, นายกรัฐมนตรี, ศาลรัฐธรรมนูญ, เศรษฐา ทวีสิน