SCB แจ้งงบ Q2/67 กำไรวูบ 15.6% จากรายได้ค่าธรรมเนียมหด-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม แม้ตั้งสำรองลดลง

บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จำนวน 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และงวดครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ 21,295 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/67 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 32,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตรา 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อและมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน

รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 10,328 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 18,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ก่อนรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) อยู่ที่ 41.2%

บริษัทตั้งเงินสำรองจำนวน 11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากปีก่อน โดยในไตรมาสนี้รวมการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7% คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.67 อยู่ที่ 3.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.8%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์และยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เน้นความมั่นคงทางการเงิน รักษาระดับเงินสำรองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทาย บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานอันแข่งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดให้นักลงทุนรวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคงอย่างทั่วถึง โดยในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุนสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top