นาย ฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) ปรับโครงสร้างและการเข้าลงทุนในธุรกิจอาหาร โดยจัดตั้งทำธุรกิจร้านอาหารร่วมกับ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด และ นายปิยะเลิศ ใบหยก (เบียร์ ใบหยก) มีหลายแบรนด์ ได้แก่
– Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว จำนวน 142 สาขา
– Sekai no Yamachan จำนวน 10 สาขา
– ส้มตำ เจ๊แดง สามย่าน จำนวน 42 สาขา
– ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน จำนวนรวม 10 สาขา
รวม 204 สาขา โดยคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมกันประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท สรุปทุนจดทะเบียนหลังจัดโครงสร้าง = 2,500 ล้านบาท โดย AQUA ถือ 51% สร้าง Synergy ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแรง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด 40% นายปิยะเลิศ ใบหยก 9% โดยกระบวนการจัดโครงสร้างเพื่อเป็นไปตามแผนข้างต้นจะมีหลายขั้นตอน และคาดจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.67
ทั้งนี้ AQUA จะจัดตั้งบริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB) ขึ้นมาเพื่อลงทุนในธุรกิจอาหาร โดยจะชำระค่าหุ้นของ FAB เป็นเงินสด 1,000,000 บาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 151,000,000 บาท โดยชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนด้วยหุ้นทั้งหมดของ บริษัท โนมิมาโช จำกัด (Nomimashou) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านราเมงเดส จากนั้นจะเพิ่มทุนใน FAB เป็น 1,275,000,000 บาท ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นเงินสด 1,094 ล้านบาท และ สิทธิในการใช้สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home Media) มูลค่า 30 ล้านบาท
1. Nomimashou จะเข้าซื้อทรัพย์สินร้านอาหารราเมน ได้แก่ อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน จาก บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้น คือ (1) นายธนน วีอารยะ (2) นายปิยะเลิศ ใบหยก (3) นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ (4) นายสีมาทอง ทองสิมา (5) นางสาวกองทอง ใบหยก และ (6) นางสาวศุภอร โอภาสินา ในราคา 56 ล้านบาท โดยชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด
2. FAB เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ส้มตำเจ๊แดงสามย่าน จำกัด (Jae Dang) เจ้าของร้านอาหาร “ส้มตำ เจ๊แดง สามย่าน” จาก Protea Investment Limited (Protea) จากผู้ถือหุ้นรายอื่น คือ (1) นายปิยะเลิศ ใบหยก (2) นายภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ (3) นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ (4) นายสีมาทอง ทองสิมา (5) นางสาวสะธี ใบหยก (6) นางสาวกองทอง ใบหยก และ (7) นางสาวศุภอร โอภาสินา ในราคา 350 ล้านบาทซึ่ง FAB จะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด
3. FAB เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ยามะจัง (ไทยแลนด์) จำกัด (Yamachan) เจ้าของร้านอาหาร เซไค โนะ ยามะจัง จาก Protea และผู้ถือหุ้นรายอื่น คือ (1) นายธนน วีอารยะ (2) นายปิยะเลิศ ใบหยก (3) นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ (4) นายสีมาทอง ทองสิมา (5) นางสาวกองทอง ใบหยก และ (6) นางสาวศุภอร โอภาสินา ในราคา 610 ล้านบาท โดยจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินสด
จากนั้น FAB จะเพิ่มทุนจดทะเบียน 225,000,000 บาท ซึ่ง AQUA จะสละสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวน และให้นายปิยะเลิศ ใบหยก เป็นผู้จองซื้อแทน ซึ่งจะทำให้นายปิยะเลิศเข้ามาถือหุ้น 15% ใน FAB
4. FAB จะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด (KT Restaurant) เจ้าของร้านอาหาร ซานตาเฟ่ สเต๊ก, ซานตาเฟ่ สเต๊ก อีซี่ และ ร้านเหม็ง แซ็ปนัวนัว จาก บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด (ผู้ลงทุนกลุ่มที่ 2) ซึ่งมีผู้ถือหุ้น คือ (1) บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (2) นายปิติ ภิรมย์ภักดี (3) นายภูริต ภิรมย์ภักดี และ (4) นายสุธาบดี สัตตบุศย์ ในราคา 1,000 ล้านบาท ซึ่ง FAB จะจ่ายค่าตอบแทนด้วยการออกหุ้นพิ่มทุนให้กับผู้ลงทุนกลุ่มที่ 2 จำนวน 10,000,000 หุ้น โดย AQUA และนายปิยะเลิศ จะสละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวน
โดยสรุปแล้วโครงสร้างของ FAB จะมี AQUA ถือหุ้น 51% บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ถือหุ้น 40% และ นายปิยะเลิศ ใบหยก ถือหุ้น 9%
นายฉาย บุนนาค กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าการลงทุนธุรกิจอาหารในครั้งนี้จะสร้างแกนรายได้อีกขาหนึ่งให้กับกลุ่ม AQUA ด้วยธุรกิจอาหารในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่ม EBITDA ให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว และสร้างความมั่นคงเติบโตตามการบริโภคอย่างต่อเนื่อง แม้ธุรกิจอาหารจะเป็นไปตามกระแสนิยม แต่ Brandต่างๆ ที่เราร่วมลงทุน ต่างก็เป็น Brand ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับมานาน อีกทั้งธุรกิจอาหารก็ถือเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต และมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจต่ำกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ
นายฉาย กล่าวเพิ่มเติมถึงพันธมิตรในการร่วมลงทุนว่า “การลงทุนร่วมกันในแบรนด์ร้านอาหารครั้งนี้ เราได้ศึกษามาเป็นอย่างดีร่วมกับพันธมิตรที่มี Synergy กันชัดเจน ทั้งด้านการตลาดและด้านเครือข่ายการจัดการที่มีประสิทธิภาพ”
ทั้งนี้ FAB พร้อมด้วยพันธมิตรทั้ง 2 ราย เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวธุรกิจอาหารอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 67)
Tags: AQUA, ฉาย บุนนาค, หุ้นไทย, อควา คอร์เปอเรชั่น