สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (18 ก.ค.) ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรป (EU) เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.3% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2562 โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตในตลาดหลัก ๆ อย่างอิตาลี เยอรมนี และสเปน ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ลดลงเล็กน้อย
ACEA ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่พุ่งขึ้นในเบลเยียมและอิตาลีที่ 50.4% และ 117.4% ตามลำดับนั้น ไม่สามารถชดเชยยอดขายที่ลดลงในระดับเลขสองหลักในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศสได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของยุโรปต่างคาดหวังว่ายอดขายรถยนต์จะดีขึ้นตลอดทั้งปี แม้ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะชะลอตัวลงหลังจากเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาหลายปี และมีสัญญาณเตือนว่าตลาดโลกจะเผชิญกับความท้าทาย
ข้อมูลของ ACEA ระบุว่า เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินในเดือนมิ.ย. ลดลง 1% และ 19.9% ตามลำดับใน EU ขณะที่ยอดขายรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้น 26.4%
สำหรับในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 1.3%
รถ EV ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้ไฟฟ้า 100% แบบปลั๊กอินไฮบริด หรือแบบไฮบริดเต็มรูปแบบที่จำหน่ายใน EU คิดเป็น 50% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใหม่ทั้งหมดในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 47.5% ในปีก่อนหน้า
ยอดจดทะเบียนรถยนต์ของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด 3 รายของยุโรป ได้แก่ โฟล์คสวาเกน (Volkswagen), สเตลแลนทิส (Stellantis) และเรโนลต์ (Renault) เติบโตขึ้น 4.7%, 0.4% และ 6.2% ตามลำดับในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ เยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดรถ EV ขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป สิ้นสุดมาตรการอุดหนุนการซื้อรถ EV ในช่วงต้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงงบประมาณปี 2567
นายลูเซียง มาติเยอ ผู้อำนวยการฝ่ายรถยนต์ของกลุ่มรณรงค์ด้านการขนส่งและสิ่งแวดล้อมแห่งยุโรป (T&E) กล่าวว่า “เยอรมนีเปรียบเหมือนคนป่วยของยุโรปในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า” ในขณะที่ตลาดอื่น ๆ ซึ่งยังคงใช้มาตรการจูงใจให้คนหันมาใช้รถ EV กำลังเก็บเกี่ยวผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 67)
Tags: ยอดขายรถยนต์, รถยนต์