เงินบาทเปิด 35.94 แข็งค่ารอบ 2 เดือน คาดกรอบวันนี้ 35.90-36.15 จับตาราคาทอง-ตัวเลขศก.สหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.94 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่า จากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 36.10 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้แข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) สหรัฐฯ จะเปิดเผยยอดค้าปลีกออกมาดีกว่าคาด แต่ตลาดยังมีมุมมองเดิมประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพิจารณาปรับลด ดอกเบี้ยในการประชุมรอบเดือน ก.ย. ประกอบกับเมื่อคืนนี้ทองคำทำนิวไฮ ทำให้มี Flow ฝั่งส่งออกทองคำ หรือขายดอลลาร์ซื้อเงินบาท

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.90 – 36.15 บาท/ดอลลาร์

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน มิ.ย. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.

 

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 158.45 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 158.38 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0902 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0899 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 36.212 บาท/ดอลลาร์
  • ‘เศรษฐา’ แถลงสภาวันนี้ แจงความจำเป็นร่างพ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 จำนวน 1.22 แสนล้าน ใช้ทำ ดิจิทัลวอลเล็ต ยันเปิดให้ลงทะเบียนนานเดือนครึ่งจาก 1 ส.ค
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งในปี 2567 และ 2568 โดยระบุว่า เศรษฐกิจของไทยในปี 2567 จะขยายตัว 2.9% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.7% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัว 3.1% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9%
  • โรงแรม-ร้านอาหาร โอดต้นทุนพุ่งตามค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันปรับราคาอาหารไม่ได้เหตุกำลังซื้อหด-สมาคมโรงแรมเตรียม หารือ 18 ก.ค.นี้ หาทางออก
  • ศูนย์วิจัย Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ประเมินว่า การผลิตทองคำโดยรวมทั้ง โลกยังมีแนวโน้ม ขยายตัวได้อย่างจำกัด และยังต้องจับตาหลายปัจจัย ที่ส่งผลให้ราคาทองคำมีความผันผวน และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นใน ช่วงที่เหลือของปีนี้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.0% หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบราย เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.3% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. ส่วนเมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า การใช้จ่าย ของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 70% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐนั้นยังคงฟื้นตัว แม้เฟดใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม และข้อมูลดังกล่าวยังช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจะไม่ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
  • ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ทำให้กรรมการเฟดมี ความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า เงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
  • นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. หลังการส่ง สัญญาณของนายพาวเวล และหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาวะเศรษฐกิจถด ถอยของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร (16 ก.ค.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเชื่อ มั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย., การ ผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับ สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top