ผู้เชี่ยวชาญด้านญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมากในช่วงหลายปีข้างหน้า เนื่องจากความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐนั้น ก่อให้เกิดความกังวลด้านธุรกิจและความมั่นคงในภูมิภาค
นายวิลเลียม เปเซก ผู้เขียนหนังสือ Japanization: What the World Can Learn from Japan’s Lost Decades ให้สัมภาษณ์ในรายการ “Squawk Box Asia” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันจันทร์ (8 ก.ค.) ว่า ผลงานดีเบตที่ย่ำแย่ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในศึกดีเบตรอบแรกกับนายทรัมป์ได้สร้างความกังวลหรือความไม่แน่ใจในญี่ปุ่น”
ผลพวงจากการดีเบตของปธน.ไบเดนกับนายทรัมป์ส่งผลให้สมาชิกพรรคเดโมแครตต้องการให้ปธน.ไบเดนถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเพื่อแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายเปเซกกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเคยมั่นใจว่าปธน.ไบเดนสามารถจัดการสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายล่าสุดภายในพรรคเดโมแครต ทำให้พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น กำลังประเมินถึงความเป็นไปได้ที่นายทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2
“ผมคิดว่าทรัมป์เป็นคนที่คิดเรื่องทุกอย่างเหมือนการทำธุรกิจ ไม่สามารถคาดเดาได้ และไม่ค่อยซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ต้องพูดถึงเอเชียเลย ถ้าคุณเป็นญี่ปุ่น ตอนนี้คุณอาจจะมองไปที่อนาคตและคิดว่านี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา”
การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์เป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นได้รับผลกระทบทางอ้อมด้วยในสมัยแรกของเขา
นายเปเซกกล่าวเสริมว่า “แม้นโยบายสงครามการค้าจำนวนมากของเขามุ่งเป้าไปที่จีนเป็นหลัก แต่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงเวลานั้น”
ทั้งนี้ นายทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะเก็บภาษีนำเข้าทั่วโลก 10% และจะเก็บภาษีจีน 60% หากชนะการเลือกตั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 67)
Tags: ญี่ปุ่น, สหรัฐ, เลือกตั้งสหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์