น้ำมัน WTI ปิดบวก 52 เซนต์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยหนุนดีมานด์น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (11 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 85.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.1% จากระดับ 3.3% ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% จากระดับ 3.4% ในเดือนพ.ค.

ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันเช่นกัน เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น

ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 445.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 229.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศคงตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2567 และ 2568 ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเดินทางทางอากาศจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงในช่วงฤดูร้อน

โอเปกเปิดเผยรายงานเมื่อวันพุธ (10 ก.ค.) ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2567 และเพิ่มขึ้น 1.85 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2568 โดยตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์ของทั้งสองปีดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2567 ขึ้นสู่ระดับ 2.9% จากระดับ 2.8% และคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top