นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า วันที่ 10 ก.ค.จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการดิจิทัลฯ เพื่อที่จะสรุปเงื่อนไขทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค.นายกรัฐมนตรีจะแถลงถึงกำหนดเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในโครงการนี้ รวมถึงการยืนยันตัวตน โดยคาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ในวันที่ 30 ก.ค.และสอบถามไปยังกฤษฏีกา
โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ มีการยืนยันตัวตนลงทะเบียน และส่วนที่เป็นระบบ payment เกี่ยวกับระบบการชำระเงิน ดังนั้น สิ่งที่จะนำเข้า ครม. คือ กรอบของโครงการที่พร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนและการลงทะเบียนของประชาชน ดังนั้น จึงขอให้รอฟังรายละเอียดทั้งหมดในวันที่ 24 ก.ค.นี้
ส่วนการจ่ายเงินยังเป็นไปตามกำหนดในไตรมาส 4/67 แต่ยังไม่ระบุวัน เพราะต้องมีความยืดหยุ่น ซึ่งทางรัฐบาลย้ำตั้งแต่แรกว่า จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนไตรมาสที่ 3 และรับเงินไตรมาสที่ 4
สำหรับตีความเรื่องแหล่งเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่จะมาใช้ในโครงการนี้ นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่า ขั้นตอนจะต้องสรุปรายละเอียดทั้งหมดเป็นแพ็กเก็จ ซึ่งเงื่อนไขหรือข้อจำกัดต่าง ๆ ต้องถูกเคลียร์หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดให้สินค้าทุกประเภทเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้ (Negative List)
“ทุกอย่างต้องชงเรื่องไปเป็นก้อน เพื่อให้กฤษฏีกาพิจารณาในรายละเอียดทั้งหมด ไม่ใช่จะไปถามลอย ๆ ว่า ทำโครงการแบบนี้แล้ว จะทำได้หรือไม่ จึงสรุปได้ว่าเมื่อธ.ก.ส.ชงเรื่องเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงจะส่งเรื่องไปยังกฤษฏีกา ยืนยันว่า ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการและไทม์ไลน์แต่ต้องรอในระยะเวลาที่เหมาะสม เหตุที่รอคือ เงื่อนไขทุกอย่างจะต้องนิ่ง รวมถึงกรอบมาตรา 28 ตามกฏหมาย”นายเผ่าภูมิ กล่าว
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า แหล่งที่มาของเงินทั้งงบประมาณปี 68 งบกลางเพิ่มเติมปี 67 รวมถึงเงินตามมาตรา 28 ยังอยู่ในกระบวนการ ดังนั้น ไม่มีปัญหาใด ๆ ในเรื่องงบประมาณ รัฐบาลยังพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ขณะที่เดินตามกระบวนการและกรอบระยะเวลา เป็นไปตามกฏหมายทุกอย่าง
วงเงินที่จะใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่กำหนดไว้ 5 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่า ยังเป็นกรอบวงเงินเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และทุกอย่างยังอยู่ในกระบวนการ ทั้งงบประมาณ ปี 68 ที่กำลังพิจารณาอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งยืนยันเดินหน้าต่อไปไม่มีปัญหาอะไร ส่วนงบกลางปี 67 เพิ่มเติม ก็จะเข้าสู่สภาวันที่ 17 ก.ค.นี้
ส่วนมีแผนสำรองหรือไม่หากคณะกรรมการกฤษฏีกาชี้ว่าแหล่งเงินที่มาใช้ในโครงการไม่ถูกต้อง นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เตรียมพร้อมไว้แล้ว มีออฟชั่น 2 ออฟชั่น 3 แต่เบื้องต้นเป็นการเดินตามออฟชั่น 1 ซึ่งไตรมาส 4 ประชาชนจะได้ใช้เงินตามที่กำหนด และทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ ในความเป็นจริงเร็วกว่าในกระบวนการที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก แต่ขอรอแถลงความชัดเจน 24 ก.ค.ก่อน
ด้านความชัดเจนการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตซื้อสินค้านั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นสินค้าที่เป็นมือถือและอิเล็กทรอนิกมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดออก แต่ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ เพราะมีความเชี่ยวชาญว่าสินค้าประเภทไหนที่มีลักษณะเงินไหลออกประเทศสูง ซึ่งจะมาสรุปในที่ประชุมในวันพุธนี้
นอกจากนี้ นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า คนในครอบครัวเดียวกัน สามารถรวมเงินไปซื้อสินค้าได้ เพราะเป็นวัตถุประสงค์ของโครงการนี้
นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลกมองว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 0.5-1% เท่านั้นว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน การประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจจึงต้องดูให้หลากหลาย ในส่วนของกระทรวงการคลังก็ได้มีการประเมินตัวเลขต่าง ๆ ย่อมมีความหลากหลาย แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข แต่ก็จะรับข้อห่วงใยไปพิจารณา
ส่วนกรณีที่หากไม่ทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 -0.5% ซึ่งจะต้องแลกกันหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มาตรการทางการเงินต้องทำหน้าที่ของตนเอง อย่าเอามาผูกกันในมิติดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ธปท. เคยผูกเรื่องมาแล้วครั้งหนึ่ง กรณีที่คาดการณ์ว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเกิดขึ้นในปีนี้ จึงขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอเพราะกลัวเงินเฟ้อ ซึ่งเคยทำเรื่องนี้มาแล้ว เมื่อนำมาผูกกันเช่นนี้ก็มีปัญหาทำให้ขึ้นดอกเบี้ย โดยที่ดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ออกในปีนี้ ท้ายสุดเงินเฟ้อไม่ได้ขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหาและทำให้เห็นปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันตกขอบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 67)
Tags: ดิจิทัลวอลเล็ต, นายกรัฐมนตรี, รัฐบาล, เผ่าภูมิ โรจนสกุล