หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าคาดปรับขึ้น รับบอนด์ยีลด์ปรับลง-มาตรการ Uptick เริ่มเห็นผล

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีฟื้นตัว จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็ว ตลาดเพิ่มน้ำหนักว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ที่ 70% จากสัปดาห์ก่อนหน้าให้น้ำหนักประมาณ 60% ซึ่งประเด็นดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 105 จุด เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 4.3% เป็นผลดีต่อตลาดหุ้น Emerging Market อย่างเช่นตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย

ขณะที่มาตรการ Uptick เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เริ่มเห็นผลในแง่ของราคาหุ้นเคลื่อนไหวมีเสถียรภาพและเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มลดลง ประกอบกับการเข้า Long ในตลาด Futures ซึ่งมองว่าเป็นการ Short Covering

สัปดาห์นี้ประเด็นในประเทศติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับความชัดเจนของกองทุน Thai ESG ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามความเห็นของประธานเฟดในการแถลงนโยบายต่อคณะกรรมการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ

ให้กรอบแนวรับ 1,300 จุด และแนวต้าน 1,315 แนวต้านถัดไปที่ 1,325 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,375.87 จุด เพิ่มขึ้น 67.87 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 30.17 จุด หรือ +0.54% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,352.76 จุด เพิ่มขึ้น 164.46 จุด หรือ +0.90%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 40,863.14 จุด ลดลง 49.23 จุด หรือ -0.12%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,667.97 จุด ลดลง 131.64 จุด หรือ -0.74% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,939.84 จุด ลดลง 10.09 จุด หรือ -0.34%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ค.) 1,311.99 จุด เพิ่มขึ้น 10.95 จุด (+0.84%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,922.51 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,751.70 ล้านบาท (5 ก.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 72 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 83.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ค.) อยู่ที่ 3.69 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.46 แนวโน้มแข็งค่า จับตาการเมืองไทย-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ-ถ้อยแถลงปธ.เฟด

– “สำนักงานประกันสังคม” ปรับพอร์ตลงทุนใหม่ มุ่งเน้นลงทุน “สินทรัพย์เสี่ยง” มากขึ้น ชี้สอดรับความเหมาะสมและศักยภาพของ “กองทุนประกันสังคม” ด้าน กบข.มองหุ้น SET50 น่าสนใจ เหตุราคาไม่แพง-มีปันผล “บล.เอเซีย พลัส” คาดหุ้น SET50 ปันผลเฉลี่ย 3% ต่อปี “บล.โกลเบล็ก” มองกองทุนต้องเลือกหุ้นใหญ่พื้นฐานดี “บลน.ฟินโนมีนา” ชี้หุ้น-พันธบัตรต่างประเทศผลตอบแทนจูงใจ

– “นิด้าโพล” เผยคนไทยเมิน “หวยเกษียณ” กังวลมอมเมา-เสพติดการพนัน บางส่วนเห็นด้วยที่เป็นทางเลือกการออม ชี้จำกัดซื้อ 3 พัน/เดือนเหมาะสม “ศิริกัญญา” มองรัฐบาลยังสื่อสารไม่มากพอ

– “สรรพสามิต” ชงของบกลาง 7 พันล้านบาท ลุยอุ้มจ่ายเงินอุดหนุนรถอีวีคันละ 1.5 แสนบาท อีก 3.5 หมื่นคัน ฟุ้งค่ายรถยนต์เตรียมปักหลักลงทุนในไทย 4 หมื่นล้านบาท คาดปั๊มรถอีวีได้ 8-9 หมื่นคัน พร้อมถกบีโอไอหามาตรการอุ้มรถสันดาปเปลี่ยนผ่านสู่อีวี แจงผู้ประกอบการอ้อนขอลดภาษี

– รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในส่วนของการเปิดรับสมัครร้านค้าว่า เบื้องต้นได้กำหนดเป้าหมายร้านค้าขนาดเล็กรายย่อยเข้าร่วมกว่า 1.4 ล้านราย แบ่งเป็นร้านค้าที่มีข้อมูลในส่วนกระทรวงพาณิชย์ ที่จดทะเบียนนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา จำนวน 910,000 ราย ร้านธงฟ้าและร้านอาหารธงฟ้า จำนวน 150,000 ราย ร้านค้าโชห่วย ร้านอาหาร หาบเร่แผงลอย ตลาดนัดของกระทรวงมหาดไทยจำนวน 400,000 ราย และกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 90,000 ราย

 

หุ้นเด่นวันนี้

 

– CPF (กสิกรไทย) แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานที่ 27.4 บาท คาดผลประกอบ Q2/67 เติบโตแรงกว่า 380% QOQ และ 600% YOY แตะ 5 พันล้านบาท พลิกจากที่ขาดทุนเกือบ 800 ล้านบาท ใน Q2/66 และกำไรเร่งขึ้นจาก 1.1 พันลบ.ใน Q1/67 โดยหนุนจากราคาสุกรที่ฟื้นตัวดีขึ้นและมีการรับรู้กำไรพิเศษอีกราว 1 พันลบ.จากการปรับมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ มองไปข้างหน้าผลประกอบการยังอยู่แนวโน้มเชิงบวก ส่งผลให้เราปรับคาดการณ์ ผลประกอบการของบริษัทขึ้น 48%/11%/4% สำหรับปี 67-69 ตามลำดับ

– TNP (กรุงศรี) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 4.8 บาท มอง Slightly Positive ต่อกำไรปกติ 2Q67 ที่ 40 ล้านบาท (+18% y-y, -10%q-q) โดยคาด SSSG ยังบวก 1% y-y ดีกว่ากลุ่มฯค้าปลีกที่คาด -1% y-y และรายได้รวมคาดยัง +10% y-y โดยกำไร 1H67 คาดเป็น 50% ของกำไรปกติปี 67 ที่ 170 ล้านบาท (+13% y-y) เป็นปีที่เริ่มกลับมาเติบโตในรอบ 3 ปี ขณะที่ ราคาหุ้นซื้อขาย PER24F 16 เท่า (ค่าเฉลี่ย -1.1SD) ยังน่าสนใจและเป็นหุ้นรับประโยชน์มาตรการรัฐ แนะนำ “Buy” จาก TP24F 4.8 บาท อิง DCF (WACC 8.0% ,TV Growth 2.0%)

– SYNEX (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท แนวโน้ม 2Q67 คาดรายได้ฟื้นตัวได้ YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่ QoQ มันพอมีแรงหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ช่วยลดผลกระทบ low season ทั้งนี้หากมองข้ามไปใน 2H67 น่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการ Upgrade สินค้า AI PC & Mobile ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐในเรื่อง Djigital wallet ส่วนสินค้าในกลุ่ม Commercial น่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ตามการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิในปี 67-68 ที่ 623 ล้านบาท +21%YOY และ 707 ล้านบาท +13%YOY

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top