SGC ผนึก SINGER สร้างความมั่นใจแผนเพิ่มทุนแม้เตรียมแผนสำรอง ยันใช้คืนหนี้ครบภายในปี 71

บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) เตรียมแผนสำรองหากแผนเพิ่มทุนอาจไม่สามารถระดมทุนได้ครบตามที่คาดหวัง โดยจะลดขนาดพอร์ตสินเชื่อทำเงินโยกไปเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ Locked Phone เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ยังมั่นใจว่าผู้ถือหุ้นหลัก คือ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ซึ่งถือหุ้นอยู่ราว 75% จะให้การสนับสนุนแผนเพิ่มทุน และวางเป้าหมายจะใช้หนี้คืน SINGER ให้ครบทั้งหมดภายในปี 71

“เรามั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มทุนได้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของเราคือ SINGER ซึ่งถือหุ้นอยู่ราว 75% แต่หากการเพิ่มทุนดังกล่าวไม่เป็นไปตามคาดหวัง เรามีแผนที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะลดขนาดพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินลงเหลือ 8,000-9,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินส่วนดังกล่าวไปใช้กับสินเชื่อ Locked Phone ที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า” นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ SGC กล่าว

สำหรับแผนเพิ่มทุนของ SGC จะเพิ่มทุนจดทะเบียน 5,232 ล้านบาท จากเดิม 3,270 ล้านบาท โดยจัดสรรขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ไม่เกิน 3,270 ล้านหุ้น เพื่อนำไปชำระคืนหนี้ให้กับ SINGER จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทลดภาระดอกเบี้ยลงได้ราว 60 ล้านบาท/ไตรมาส

นอกจากนั้น จะนำหุ้นเพิ่มทุนไปรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 1 (SGC-W1) ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (ก่อนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน) จำนวนไม่เกิน 654 ล้านหุ้น จะนำไปเป็นเงินทุนสำหรับการปล่อยสินเชื่อ Locked Phone ในปี 68

และ รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 2 (SGC-W2) จำนวนไม่เกิน 1,309 ล้านหุ้น จะนำไปใช้ชำระคืนหนี้ให้กับ SINGER อีก 1,000 ล้านบาท และเป็น Working Capital ในปี 70

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถชำระคืนเงินกู้ให้กับ SINGER ได้หมดภายในปี 71

ด้านนายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เตรียมเงินเพื่อรองรับการเพิ่มทุนของ SGC ไว้แล้ว โดยหลักจะมาจากกระแสเงินสด ซึ่ง ณ ไตรมาส 2/67 มีอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท และการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมหากไม่เพียงพอ

สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในไตรมาส 3/67 บริษัทยืนยันชำระคืนหุ้นกู้ได้อย่างแน่นอน และจะเหลือหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดงวดสุดท้ายในไตรมาส 1/68 จากนั้นในไตรมาส 2/68 บริษัทจะไม่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายหุ้นกู้แล้ว ทำให้บริษัทคาดว่า ณ สิ้นปี 71 จะมีกระแสเงินสดไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท

บริษัทยังคงเป้าหมายเบรกอีเว้นท์ในไตรมาส 1/68 โดยคาดว่ายอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 30% และผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 คาดว่าจะเติบโตกว่า 24% จากไตรมาส 1/67 และเติบโต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่, สินค้ามือสอง และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก

ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้คาดจะเติบโต 40% จากครึ่งปีแรก จากการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ, สินค้าใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งในเดือนส.ค.นี้บริษัทฯ ก็เตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top