AISUM เปิดตัวแพลตฟอร์มโฆษณาไร้คุกกี้ในไทย ตอบรับเทรนด์โฆษณาออนไลน์ยุคใหม่

AISUM บริษัทด้านเทคโนโลยี Vision AI จากเกาหลี เปิดตัวแพลตฟอร์มโฆษณา “aedi.AI” ในไทย มั่นใจรองรับแนวโน้มการโฆษณาออนไลน์ยุคใหม่ที่ไม่พึ่งพาคุกกี้ในการเก็บข้อมูลผู้ใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยชูจุดแข็งเพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณา โดยลดปริมาณการยิงโฆษณาสินค้าซ้ำ ส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้น ตอบรับยุคแห่งโซลูชันการโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเคารพความเป็นส่วนตัว

aedi.AI เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำรายได้สูงสุดในเกาหลีให้กับ AISUM มาโดยตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพ โดย aedi.AI เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโฆษณาที่ใช้โซลูชันการจับคู่รูปภาพด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง จนประสบความสำเร็จในการทำแคมเปญโฆษณาหลายพันแคมเปญร่วมกับผู้เผยแพร่คอนเทนต์มากกว่า 300 ราย และผู้ลงโฆษณาราว 1,000 รายในเกาหลี นอกจากนี้ การสอน AI ให้เรียนรู้ข้อมูลมากกว่า 290 ล้านข้อมูลยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลลัพธ์จากการโฆษณาที่น่าพึงพอใจโดยไม่ต้องใช้คุกกี้หรือวิธีการติดตามข้อมูลที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

นับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2566 เป็นต้นมา aedi.AI ได้เริ่มนำเสนอโซลูชันสุดล้ำนี้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและสหรัฐอเมริกา บริษัทได้ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นจุดเริ่มต้นในการเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากไทยมีโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและอีคอมเมิร์ซที่มีการพัฒนามาเป็นอย่างดี

พัคเซรยอน ซีอีโอของ AISUM กล่าวถึงการโฆษณาโดยไม่ใช้คุกกี้ว่า หลังจากผ่านประสบการณ์ในการจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลจากการให้บริการในประเทศจีน ทำให้เราสามารถปรับปรุงบริการภายในประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ และตอนนี้เรามั่นใจว่า aedi.AI สามารถรองรับข้อมูลรูปภาพไปจนถึงวิดีโอจำนวนเท่าใดก็ได้ ในทุกที่ทั่วโลก และยิ่งเราประมวลผลข้อมูลมากเท่าใด ประสิทธิภาพการโฆษณาของเราก็จะยิ่งแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น เพราะโฆษณาจะต้องผ่านการตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยหลักการหรือระบบในการยิงโฆษณาของเรา

“ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมา เราเชื่อว่า aedi.AI จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ขายและสร้างมิติใหม่ให้กับประสบการณ์การชอปปิงให้แก่ลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ขณะเดียวกัน AISUM กำลังเร่งขยายการนำเสนอแพลตฟอร์มนี้ไปสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน” ซีอีโอ AISUM กล่าว

สำหรับในไทยนั้น aedi.AI ได้พัฒนาความร่วมมือกับผู้เผยแพร่คอนเทนต์ชั้นนำ 20 ราย เช่น ไทยรัฐ กระปุก มติชน และเนชั่น กรุ๊ป รวมถึงผู้ลงโฆษณารายแรกอย่างช้อปปี้ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ขณะเดียวกัน aedi.AI ยังดึงดูดแบรนด์ชั้นนำและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเอเจนซีในไทยและเอเจนซีต่างชาติ เช่น ซีเจเวิร์ค, พับลิซิส และ กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ข้อมูลจาก aedi.AI ระบุว่า ช้อปปี้ได้รับผลตอบแทนจากการลงโฆษณา (ROAS) ในระดับที่น่าประทับใจสูงถึง 1,041% ในเดือนพฤษภาคม

AISUM ตั้งเป้าขยายเครือข่ายไปทั่วตลาดเอเชีย เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่ทั้งผู้เผยแพร่คอนเทนต์และผู้ลงโฆษณา โดยกลยุทธ์ของบริษัทจะเพิ่มมูลค่าโดยรวมให้กับอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์ ส่งให้ aedi.AI ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นหลักของวงการโฆษณาออนไลน์แห่งอนาคตที่ไม่ต้องมีการใช้คุกกี้อีกต่อไป ชี้บริษัทแตกต่างจากบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Google และ Meta ที่มุ่งเน้นการยิงโฆษณาซ้ำสำหรับสินค้าที่เคยดูมาแล้ว ด้วยการนำเสนอวิธีการใหม่ที่ aedi.AI ได้พัฒนาพื้นที่โฆษณาขึ้นมาเองร่วมกับผู้เผยแพร่คอนเทนต์ชั้นนำของไทย

บริการของ aedi.AI ประกอบด้วยโซลูชันที่โดดเด่น ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่ทันสมัยในยุคปัจจุบันให้กับทั้งผู้ลงโฆษณาและผู้เผยแพร่คอนเทนต์:

1. AI Product Matching: บริการนี้จับคู่สินค้าของผู้ขายกับรูปภาพในคอนเทนต์โดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าตำแหน่งโฆษณานั้นตรงกับความสนใจของผู้รับชมคอนเทนต์เป็นอย่างยิ่ง

2. AI Scene Matching: บริการจับคู่ผ่านองค์ประกอบของคอนเทนต์ รวมถึงคีย์เวิร์ดกว่า 200 คำที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อความในคอนเทนต์ โซลูชันนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณามีการแสดงผลในบริบทที่เหมาะสมที่สุด ตลอดจนเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้รับชมคอนเทนต์โดยที่ไม่ต้องใช้คุกกี้

aedi.AI ช่วยให้ผู้ขายสามารถแทรกโฆษณาผลิตภัณฑ์ในรูปภาพตามบทความต่าง ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคที่มีแนวโน้มว่าจะคลิกชมและซื้อสินค้าแบบที่ดาราหรือศิลปินนิยมใช้กัน ซึ่งวิธีการนี้ไม่เพียงแต่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังยกระดับประสบการณ์การชอปปิงด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 67)

Tags:
Back to Top