นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ กรรมการบริหาร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ. แรบบิท โฮลดิ้งส์ (RABBIT) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กล่าวถึงกรณีที่บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) เพิ่มทุนครั้งใหญ่ 5,232 ล้านบาท จากเดิม 3,270 ล้านบาท เป็นทุนใหม่ 8,502 ล้านบาทว่า บริษัทไม่ได้รับแจ้งมาก่อน เพิ่งมารู้ตอนที่ SGC แจ้งข้อมูลต่อสาธารณะผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยแผนการเพิ่มทุนครั้งนี้ SGC จะออกหุ้นสามัญใหม่ขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ซึ่งมี บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ถือหุ้นใหญ่ 74.92% บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ถือ 4.46% และ RABBIT ถือ 2.20% ขณะเดียวกัน RABBIT ก็ถือหุ้นใหญ่ใน SINGER ในสัดส่วน 23.75%
การเพิ่มทุนครั้งนี้ SCG จะนำเงินส่วนใหญ่ไปชำระหนี้คืนให้กับ SINGER ซึ่ง SGC เป็นหนี้อยู่กว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ SGC ก็จะทำดีลกู้เงินจาก SINGER รอบใหม่อีก 6,100 ล้านบาท ก็เป็นการกู้เพื่อมาใช้คืนหนี้ด้วยเช่นกัน
นางสาวสรญา กล่าวว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นทั้ง SINGER และ SGC ต้องมาพิจารณาว่ากรณีนี้มีประโยชน์กับผู้ถือหุ้นอย่างไร ซึ่งก็ต้องขอดู Business Plan ก่อน และจะหารือพูดคุยกับทางผู้บริหาร SINGER คาดว่าจะได้ความชัดเจนและตัดสินใจได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 ส.ค.
“ทางนั้นเขาไม่ได้แจ้ง ก็เป็น Surprise เราก็ยังงงๆ คงต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจก่อน และตัวเราจะมี Position อย่างไร”นางสาวสรญา กล่าวกับ “อินโฟเควสท์”
อย่างไรก็ตาม RABBIT ยังมีสัญญาที่จะขายคืนหุ้น SINGER เกือบ 200 ล้านหุ้นภายในระยะเวลา 3 ปี ในราคาหุ้นละ 20 บาท
ล่าสุด ราคาหุ้น RABBIT ปรับลง 7.65% มาที่ 0.41 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 3.26 ล้านบาท เมื่อ 10.52 น.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 67)
Tags: Rabbit, SGC, SINGER, จี แคปปิตอล, บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, เอสจี แคปปิตอล