นักวิเคราะห์ ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ ตอบรับโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยมากขึ้น หลังเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มลดลง ส่วนบ้านเรายังอยู่ในโซนปรับฐาน ความเชื่อมั่นยังฟื้นตัวได้ช้า และต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง ขณะที่วันนี้จับตาการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูธ ให้แนวรับที่ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดแกว่งตัวในกรอบ โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ตอบรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกสเมื่อวานนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยเงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลดลง หนุนโอกาสเฟดปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ 65% จากปลายสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 60%
ขณะที่บ้านเราตลาด ฯ ยังอยู่ในโซนปรับฐาน เนื่องจากความเชื่อมั่นนักลงทุนยังฟื้นตัวได้ช้า แม้มีมาตรการ Uptick Rule แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง และนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยังมีประเด็นการเมืองที่ต้องจับตา โดยวันนี้ติดตามการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูธ ซึ่งจะมีเรื่องของการพิจารณายุบพรรคก้าวไกล, และคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามอาจจะยังไม่เห็นความชัดเจน หลังประธานศาลรัฐธรรมนูญระบุจะได้ข้อสรุปก่อนเดือนก.ย.นี้ ทำให้ปัจจัยการเมืองน่าจะยังยืดเยื้อต่อไป
ให้แนวรับที่ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,331.85 จุด เพิ่มขึ้น 162.33 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,509.01 จุด เพิ่มขึ้น 33.92 จุด หรือ +0.62% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,028.76 จุด เพิ่มขึ้น 149.46 จุด หรือ +0.84%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 40,225.83 จุด เพิ่มขึ้น 151.14 จุด หรือ +0.38%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,841.77 จุด เพิ่มขึ้น 72.63 จุด หรือ +0.41% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,995.66 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.04%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ค.) 1,288.58 จุด ลดลง 10.77 จุด (-0.83%) มูลค่าซื้อขายราว 38,274.60 ล้านบาท¶
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,751.01 ล้านบาท (2 ก.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (2 ก.ค.) ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 82.81 ดอลลาร์/บาร์เรล¶
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ค.) อยู่ที่ 4.16 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.80 แนวโน้มผันผวน ตลาดรอข้อมูลศก.สหรัฐ-สัญญาณดอกเบี้ยเฟด ให้กรอบ 36.75-36.90
- จับตาการเมืองในประเทศต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดียุบพรรค ก้าวไกลวันที่ 3 ก.ค. นี้
- แผนปรับปรุงการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่ 2 งบปี 67 ให้รัฐบาลก่อหนี้ใหม่อีก 2.75 แสนล้าน “คลัง” พร้อม จัดงบฯใช้หนี้เกิน 2.5 – 4% พร้อมกำกับการลงทุนรัฐวิสาหกิจหันเพิ่มโครงการPPP หวังลดภาระ งบประมาณรัฐ พาณิชย์ ยันร้านค้าพร้อมร่วม ดิจิทัลวอลเล็ต
- ครม.ไฟเขียวยุบ “ร้านค้าปลอดอากรขาเข้า” 8 สนามบิน “กีรติ” เตรียมเจรจา “คิง เพาเวอร์” ยุติให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ พร้อมเสนอคณะกรรมการเอโอทีเห็นชอบก่อนดำเนินการตามมติรัฐบาล
- MRT แจ้งขึ้นค่าโดยสาร 1-2 บาท มีผล 3 ก.ค.นี้ เริ่มต้นราคาเดิม 17 บาท สูงสุด 45 บาท ด้าน “สุรพงษ์” เร่งแก้ปัญหาพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อน รถไฟความเร็วสูงช่วง “กรุงเทพฯ-โคราช และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน” หวั่นกระทบเปิดให้บริการรถไฟไทย-จีนปี 71 ส่วนต่อขยายไทย-จีน ช่วงโคราช-หนองคาย มั่นใจเปิดประมูลปีนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB (อินโนเวสท์ เอกซ์) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 81 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 โต 7% YoY จาก NIM และ non-NII เพิ่มขึ้น ขณะที่ Valuation ถูก และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลดี ส่วนความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรีพย์ต่ำ และกำไรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก Credit cost ที่ลดลง และยังมอง NIM ยังอยู่ในระดับสูงจากการที่ดอกเบี้ยนโยบายยังทรงตัว แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท
- BDMS (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 33.10 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจน upside เปิดน่าสนใจ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งจากผลประกอบการที่ยังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมกับมีแผนการเปิดโรงพยาบาลในเครือใหม่เพิ่ม ทำให้มีรายได้ใหม่เข้ามาเสริมต่อเนื่อง
- KCG (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/67 ยังแข็งแกร่ง และในครึ่งปีหลังของปี 67 แม้ต้นทุนเนยและชีสโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ชดเชยด้วยการเปิด Logistic Park ที่ช่วยลดต้นทุนได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 67)
Tags: วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย