นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA, รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุ บลจ. กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย พร้อมสนับสนุนให้ผู้ลงทุนได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้สังคมไทยน่าอยู่มากขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวจากการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งกองทุน K-ESGSI-ThaiESG หรือ กองทุนเปิดเค ตราสารภาครัฐ ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน 2567 – 1 กรกฎาคม 2567
กองทุน K-ESGSI-ThaiESG เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% โดยสามารถลงทุนในตราสารดังต่อไปนี้ 1) ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ได้แก่ พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) 2) ตราสารหนี้ภาครัฐของไทย ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรหรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย
และ 3) ลงทุนบางส่วนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผู้ระดมทุนมีทั้งที่เป็นภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้สำหรับโครงการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์ต่อสังคมไทย อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ การพัฒนาระบบขนส่งด้วยพลังงานสะอาด โครงการปลูกป่า เป็นต้น
นางสาวธิดาศิริ กล่าวว่า การตระหนักถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยพิจารณาถึงความสมดุลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ช่วยส่งเสริมให้โลกและสังคมไทยมีความน่าอยู่และยั่งยืนได้ในระยะยาว โดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต่างตระหนักและมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและสังคมที่ยั่งยืนมีความต้องการใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล ซึ่งหนึ่งในแหล่งการระดมทุนที่ได้รับความสนใจ นั่นคือ การออกตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน หรือ ESG Bond ซึ่งในประเทศไทยมีการออกทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตอย่างชัดเจน
บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของกองทุนกลุ่ม ThaiESG ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม จากกองทุน K-TNZ-ThaiESG ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นไทยแห่งแรกที่มีนโยบายสนับสนุนบริษัทที่มีเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน โดยปัจจุบันมีขนาดกองทุนกว่า 1,460 ล้านบาท (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 30 พ.ค. 67)
“ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มนำปัจจัยด้าน ESG มาปรับใช้ในกระบวนการบริหารจัดการกองทุน ตั้งแต่ปี 2556 โดยเป็น บลจ.แห่งแรกของไทยที่ร่วมลงนาม Principles for Responsible Investment (PRI Signatory) ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2564
อีกทั้งยังเป็นบลจ.แห่งแรกของไทยที่ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund) และในปี 2566 ได้เริ่มมีการจัดทำรายงานการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) เป็นปีแรก ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจในการปฏิบัติตามหลักการลงทุนอันเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและในระดับสากล เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุนและประเทศไทยในระยะยาว” นางสาวธิดาศิริกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนในกองทุนกลุ่ม ThaiESG สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และต้องถือครองหน่วยลงทุนจนครบ 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 67)
Tags: KAsset, ThaiESG, กองทุนรวม, กองทุนเปิดใหม่, ธิดาศิริ ศรีสมิต, บลจ.กสิกรไทย