NEP ควักเงิน 7.88 ลบ.ซื้อ VAVA Z สร้างธุรกิจใหม่สาย Circular Upcycling

บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม (NEP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.67 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทซื้อกิจการ VAVA Z มูลค่ารวม 7,882,988.44 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากบริษัท วาวา แซด จำกัด ซึ่งมีกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และผู้ถือหุ้นรายเดียวกับบริษัท คือ นายวีระชาติ โลห์ศิริ ถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยง

การซื้อกิจการ VAVA Z เป็นการซื้อทรัพย์สิน อุปกรณ์ เครื่องจักรสำหรับออกแบบการผลิต และสต็อกสินค้าที่ Active เครื่องหมายการค้า/แบรนด์ VAVA Z รวมถึงลูกค้าและฐานลูกค้า โดยธุรกิจ VAVA Z เป็นแบรนด์สินค้าในรูปแบบ Circular Upcycling หรือเป็นการเพิ่มมูลค่าจากเศษวัสดุหมุนเวียน และบริษัทจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.67 เพื่อรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่แทนธุรกิจเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.67 และบริษัทจะเริ่มกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ VAVA Z ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.67 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ด้วยสถานการณ์ของบริษัทที่มีผลขาดทุนสุทธิและมีกระแสเงินสดติดลบอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องจากปริมาณการผลิตไม่ถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งการเพิ่มปริมาณการขายและการผลิตผลิตภัณฑ์กระสอบพลาสติกให้สูงกว่าจุดคุ้มทุนจะใช้เวลานานและใช้เงินทุนหมุนเวียนสูง และหากบริษัทดำเนินงานในธุรกิจเดิมต่อไปจะทำให้มีผลกระทบต่องบการเงินและสภาพคล่องของบริษัท บริษัทจึงจำเป็นต้องยุติการผลิตและการจัดหน่ายผลิตภัณฑ์กระสอบพลาสติกและผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.67 เป็นต้นไปนั้น แต่บริษัทยังมีการส่งสินค้าตามกำหนดการส่งมอบให้กับลูกค้า และยังรับรู้รายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนจนถึงเดือนมิ.ย.67

การปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัทในครั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างผลกำไรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม มีความเสี่ยงต่ำ และสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการเข้าทำรายการเกี่ยวโยงจึงมีความจำเป็นและสอดคล้องกับกลยุทธ์เป้าหมายที่องค์กรวางไว้ซึ่งธุรกิจVAVA Z เป็นสินค้าสิ่งแวดล้อม Circular Upcycling ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจประจำปี 67 ที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 18/2566 เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.66 แล้วด้วยนั้น

ทั้งนี้การเข้าทำรายการดังกล่าว เพื่อให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ในธุรกิจใหม่ภายใต้ธุรกิจ BCG ทดแทนธุรกิจเดิมตั้งแต่ 1 ก.ค.67 เป็นต้นไป การปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลการดำเนินงานที่ขาดทุน โดยบริษัทยังมีหน้าที่ต้องแก้ไขผลการดำเนินงานให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์คุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียนต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 67)

Tags: ,
Back to Top